นครศรีธรรมราช 15 มิ.ย.- คณะทำงานบูรณะกลีบบัวทองคำองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราชเห็นชอบแนวทางสกัดทองคำเก่าด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้เป็นทองคำเปอร์เซ็นต์ 99.99 ก่อนนำมาบูรณะ ย้ำทุกขั้นตอนโปร่งใส ไม่มีทุจริตแน่นอน
นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยความคืบหน้าการบูรณะกลีบบัวทองคำองค์พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารนครศรีธรรมราชว่า ล่าสุดได้ประชุมหารือกับคณะทำงานบูรณะกลีบบัวทองคำฯ และคณะกรรมการบูรณะองค์พระบรมธาตุเจดีย์ กรมศิลปากร ซึ่งประกอบด้วยหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างถูกต้องและโปร่งใส เนื่องจากมีทั้งการใช้ทองคำเดิมจากกลีบบัวคว่ำบัวหงาย และทองคำใหม่ที่ได้จากงบประมาณกลุ่มจังหวัด และการบริจาคของผู้มีจิตศรัทธา โดยทองคำเดิมมีน้ำหนัก 17.84 กิโลกรัม ค่าเปอร์เซ็นต์ทอง 83 เปอร์เซ็นต์ เมื่อนำไปรีดจะมีรอยแตกร้าว จำเป็นต้องสกัดใหม่ด้วยวิธีกรรมทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ได้ทองคำเปอร์เซ็นต์ 99.99 เปอร์เซ็นต์ แต่การดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลให้น้ำหนักทองคำลดลง จากเดิมน้ำหนัก 17.84 กิโลกรัม เหลือประมาณ 14 กิโลกรัม ส่วนทองคำใหม่ไม่มีปัญหาในการดำเนินการ ขณะนี้พร้อมสำหรับจัดทำกลีบบัวคว่ำบัวหงาย
นายจำเริญ กล่าวด้วยว่า การประชุมครั้งนี้ทุกส่วนได้ให้ความเห็นชอบกับแนวทางสกัดทองคำเก่า ดังนั้น การดำเนินงานทุกขั้นตอนสามารถชี้แจงได้หากมีข้อสงสัย โดยการสกัดทองคำเก่าได้เริ่มแล้ววานนี้และตัวแทนของคณะทำงานบูรณะกลีบบัวทองคำฯ ระดับจังหวัดเข้าสังเกตการณ์และตรวจสอบร่วมกับคณะกรรมการฯ กรมศิลปากรอย่างใกล้ชิดจนกว่าจะแล้วเสร็จ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3-4 วัน
ด้านนายชาตรี อัครวิบูลย์ ประธานชมรมร้านทองจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวเสริมว่า น้ำหนักทองคำที่ลดลงจากการดำเนินการสกัดทองคำเก่าทอง 83 เปอร์เซ็นต์ ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้เป็นทองคำเปอร์เซ็นต์ 99.99 นั้น ถือเป็นเรื่องปกติตามกระบวนการ ซึ่งน้ำหนักที่หายไปจะเป็นน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นของโลหะอื่น ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเงินบริสุทธิ์ และโลหะอื่นตามสัดส่วนการผสม ของเนื้อทองนั้นๆ โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นการทุจริตหรือยักยอกอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย