ภูมิภาค 6 มิ.ย.-ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน ขออนุมัติออกหมายจับพ่อเลี้ยงข่มขืนเด็กหญิงออทิสติก 10 ขวบแล้ว ขณะที่แพทย์ระบุเหยื่ออาการโคม่า ขณะนี้รักษาจนปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องอยู่ในห้องปลอดเชื้อ
ทีมแพทย์โรงพยาบาลโพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ต้องดูแลมารดาของเด็กหญิงวัย 10 ขวบ ซึ่งป่วยเป็นโรคไต ความดัน และเบาหวาน อย่างใกล้ชิด หลังเกิดอาการช็อกร้องไห้ตลอดเวลา เมื่อทราบว่าลูกสาวถูกข่มขืนจนได้รับบาดเจ็บสาหัสในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ก่อนที่จะมีแท็กซี่พลเมืองดีช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาลกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
ตาของเหยื่อเล่าว่า ปกติเหยื่ออาศัยอยู่กับตน ยาย พ่อเลี้ยง และแม่ ในบ้านหลังเดียวกัน แต่หลังจากแม่เหยื่อป่วย ตนก็รับทำหน้าที่รับ-ส่งไปโรงเรียนทุกวัน กระทั่งเมื่อวันจันทร์ พ่อเลี้ยงขอไปรับเอง เพื่อพาไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาล จากนั้นก็ติดต่อพ่อเลี้ยงไม่ได้อีกเลย จน 20.00 น.เมื่อวานนี้ โรงพยาบาลกระทุ่มแบนโทรมาแจ้งว่า หลานถูกถูกข่มขืนอาการโคม่า ตนรู้สึกสงสารมาก เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับครอบครัว
อีกทั้งยังเล่าถึงพฤติกรรมของพ่อเลี้ยง ขณะมาเฝ้าไข้แม่เด็กมักไม่พูดคุยสุงสิงกับใคร และจะมีเงินของคนไข้ในห้องเดียวกันหายอยู่บ่อยครั้ง ส่วนที่บ้านของเหยื่อใน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ยังถูกปิดเงียบ ลุงและป้าของเหยื่อเล่าว่า เหยื่อเรียนอยู่ชั้น ป.5 เป็นเด็กฉลาด ที่ผ่านมาไม่เคยพบเห็นว่ามีเรื่องทะเลาะในครอบครัว แต่ระยะหลังแม่ของเหยื่อป่วยหนัก พ่อเลี้ยงและเหยื่อต้องไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้ง จนมาเกิดเรื่องขึ้น ขอให้ตำรวจจับกุมตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว
นพ.โชคชัย ลีโทชวลิต ผอ.โรงพยาบาลกระทุ่มแบน เปิดเผยอาการของเหยื่ออยู่ในสภาพอิดโรย หมดสติ มีแผลฉีกขาดที่อวัยวะเพศ และเลือดออกจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ได้ให้การรักษาจนปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ในห้องปลอดเชื้อ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาอีกสักพักหนึ่ง อาการทางร่างกายของเด็กจึงจะกลับสู่สภาพปกติ
ขณะที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เร่งติดตามตัวผู้ต้องสงสัย พร้อมทั้งเรียกตัวนายสมหมาย หวาดด้วงดี แท็กซี่พลเมืองดี เข้าให้ปากคำ เช่นเดียวกับยายของเหยื่อ ซึ่งยังช็อกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ล่าสุด ตำรวจได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีกับพ่อเลี้ยงของเหยื่อแล้ว คือ นายชัยยุทธ หรือ เอ็ม คงเจริญ อายุ 40 ปี ตามข้อกล่าวหากระทำความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อ การอนาจาร, พาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ.-สำนักข่าวไทย