กรุงเทพฯ 3 มิ.ย. – หอการค้าไทยรอประเมินผลกระทบการค้าโลก หลังสหรัฐลงนามเก็บภาษีอีก 1 เดือน หากไม่มีรุนแรงคาดจีดีพีไทยโตเกินร้อยละ 4.5 ระบุเศรษฐกิจภูมิภาคยังฟื้นตัวไม่เท่าเทียมกัน
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงการประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังและปี 2561 ว่า มั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากเผชิญปัญหาการค้าโลกที่ผันผวน และค่อย ๆ มีเสถียรภาพมากขึ้น โดยทางหอการค้าไทยจะมีการประเมินและปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจใหม่อีกครั้งในอีก 1 เดือน หลังจากวิเคราะห์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในการลงนามจัดเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) และนาฟต้าของประธานาธิบดีสหรัฐ
สำหรับการลงนามดังกล่าวมีผลสะท้อนความไม่พอใจจากประเทศสมาชิกอียูและอังกฤษ โดยจะต้องดูสถานการณ์ว่าจะมีการตอบโต้ทางการค้าหรือไม่ หากมีการตอบโต้เรื่องดังกล่าวจะมีผลต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกและการส่งออกสินค้าของไทย แต่หากผลกระทบที่จะเกิดขึ้นไม่รุนแรง หอการค้าไทยยังมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4.5 การส่งออกขยายตัวร้อยละ 8-10 อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 31.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาน้ำมัน 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และดอกเบี้ยยังคงอยู่ที่ร้อยละ 1.5 และมีตัวเลขการท่องเที่ยวอยู่ที่ 38.6 ล้านคน
ด้านนางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจสถานภาพเศรษฐกิจภูมิภาคการฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ว่า ในภาพรวมเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวดีขึ้น แต่เป็นการฟื้นตัวที่กระจุกอยู่ในบางพื้นที่ โดยยังไม่ได้กระจายออกไปอย่างเท่าเทียม ซึ่งบางพื้นที่เศรษฐกิจขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 4.8 ซึ่งเป็นตัวเลขประมาณการของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ภาพรวม เนื่องจากโครงสร้างเศรษฐกิจแต่ละภูมิภาคแตกต่างกัน และบางส่วนยังมีปัญหาหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง ส่งผลต่อกำลังซื้อและการจับจ่ายของภาคประชาชน ซึ่งมีผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในแต่ละภูมิภาค.-สำนักข่าวไทย