ยโสธร 3 มิ.ย. – ทเวนตี้โฟร์ช้อปปิ้งหนุนเอสเอ็มอี ตั้งเป้าปีนี้ 900 ราย พร้อมงัดกลยุทธ์การตลาดจูงใจขาช้อปรับช้อปปิ้งออนไลน์แข่งเดือด
นายอำพา ยงพิศาลภพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จำกัด บริษัทในกลุ่มซีพี ออลล์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายผ่านทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง กว่า 9,000 รายการ โดยบริษัทช่วยร่วมพัฒนาสินค้าและบริการ ตลอดจนเป็นช่องทางการขายตั้งต้นให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้ตลาดและการจัดการด้านค้าปลีกทันสมัย เพื่อต่อยอดในการขยายตัวไปยังช่องทางอื่น ๆ อีกทั้งจัดให้มี Store Hub เพื่อให้ฝากส่งสินค้าที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่นสาขาต่าง ๆ เป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้า รวมถึงผลักดันเอสเอ็มอีไปสู่ตลาดเอเชีย ขายสินค้าให้ลูกค้าชาวจีนและลาว ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้เอสเอ็มอีตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้ามีผู้ประกอบการเอสเอ็มขายสินค้ากับทเวนตี้โฟร์ช้อปปิ้งปีนี้ 800-900 ราย
นางแย้ม จันใด เจ้าของผลิตภัณฑ์ “แม่แย้มหมอนขิด” ผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลเซเว่น อีเลฟเว่นเอสเอ็มอีไทยยั่งยืน 2560 ประเภทผลิตภัณฑ์ชุมชน กล่าวว่า การขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ช่วยกระตุ้นยอดขาย จากเดิมขายเดือนละประมาณ 4,500 ใบ เพิ่มเป็นมากกว่า 6,000 ใบต่อเดือน และสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์หมอนขิดไปยังต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา กัมพูชา และลาว เป็นต้น โดยทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้งช่วยให้คำแนะนำเรื่องต่าง ๆ ได้เรียนรู้ถึงระบบการบริหารจัดการ การศึกษากลุ่มผู้บริโภค การประเมินความต้องการของผู้บริโภค การบริหารสตอกสินค้า
ส่วนการแข่งขันในธุรกิจช้อปปิ้งออนไลน์นั้น มีความเข้มข้นมากขึ้น เพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนไทยที่เปลี่ยนแปลงไป คนไทยเลือกช้อปปิ้งผ่านมือถือและแท็ปเล็ตมากขึ้น เพราะเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต การบริการขนส่งที่สะดวกรวดเร็ว ช่วยลดเวลาการเดินทาง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยทำให้ธุรกิจการซื้อขายออนไลน์ขยายตัวและเติบโตมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จำเป็นต้องมีการปรับกลยุทธ์การตลาดและออกโปรโมชั่นให้ถูกใจผู้บริโภคสังคมออนไลน์มากขึ้น ปัจจุบันมีฐานลูกค้ามากกว่า 2 ล้านราย มีลูกค้าประจำที่ซื้อสินค้าบ่อย ๆ ประมาณ 80,000 ราย ยอดซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์เฉลี่ย 1,300 -1,500 บาทต่อคนต่อครั้ง โดยสินค้าที่มาแรง คือ สินค้าประเภทความสวยความงาม สมุนไพรประทินผิว มีแนวโน้มเติบโตได้ดี ทั้งตลาดในประเทศไทยและ CLMV.-สำนักข่าวไทย
