ก.อุตฯ 1 มิ.ย. – กรมโรงงานอุตสาหกรรมคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุปว่าโรงงานอุตสาหกรรมที่พบขยะอิเล็กทรอนิกส์ อำเภอแปลงยาว ฉะเชิงเทรา และเขตลาดกระบัง กทม.จะเข้าข่ายฐานความผิดใด
นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงการไปตรวจพบซากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่โรงงานในเขตอำเภอแปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา และทำให้สาธารณชนเกิดความสงสัยว่าเป็นขยะพิษหรือไม่นั้น ทางกรมโรงงานอุตสาหกรรมขอชี้แจงว่าปัจจุบันมีโรงงานในประเทศไทยที่ใช้ประโยชน์จากซากอิเล็กทรอนิกส์ 3 ประเภท คือ โรงงานประเภท 101 จะเป็นโรงงานที่กำจัดของเสียรวมเป็นบ่อฝังกลบ, โรงงานประเภท 105 จะเป็นโรงงานที่รับซากขยะอิเล็กทรอนิกส์มาแล้วจะมีการคัดแยกเป็นส่วน ๆ เช่น โลหะ แผงวงจร และโรงงานประเภท 106 จะเป็นโรงงานที่นำชิ้นส่วนต่าง ๆ มาผ่านกระบวนการทางอุตสาหกรรมเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่
สำหรับโรงงานที่ อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา และเขตลาดกระบัง กทม. น่าจะได้ข้อสรุปต้นสัปดาห์หน้า ว่าจะเข้าข่ายความผิดใด เช่น ประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบกิจการโดยไม่ถูกต้อง, นำเข้าผลิตภัณฑ์แสดงเท็จ หรือ นำเข้ามาผิดเงื่อนไขการนำเข้า
ปัจจุบันไทยมีบริษัทที่ถูกต้องตามกฎหมายที่สามารถนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด 7 บริษัท โควตานำเข้ารวมประมาณ 117,000 ตันต่อปี แต่ปิดไปแล้วบางส่วนหลังพบการกระทำผิด.-สำนักข่าวไทย