เผยผลวิจัยสารสกัดจากมะขามป้อม มีประสิทธิภาพ บำรุงผิว ลดริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่นกระชับ

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 28 พ.ค..- กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยผลศึกษาวิจัยสารสกัดจากมะขามป้อม มีประสิทธิภาพบำรุงผิวพรรณ ลดริ้วรอย ทำให้ผิวกระจ่างใส เพิ่มความยืดหยุ่นและกระชับผิว ช่วยยกระดับศักยภาพสมุนไพรไทย           


นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผสมสมุนไพร         มีแนวโน้มการใช้ที่มากขึ้นและมีมูลค่าทางเศรษฐกิจในตลาดโลกสูง การพัฒนาสมุนไพรไทยให้เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีคุณภาพและความปลอดภัยจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ รวมทั้งนำพาเศรษฐกิจไทยไปสู่ความยั่งยืน             ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย คือ การคัดเลือกวัตถุดิบและการเตรียมสารสกัดจากสมุนไพรต้องมีคุณภาพ เมื่อนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพ ความคงตัวและความปลอดภัย ซึ่งจะต้องผ่านกระบวนการควบคุมและทดสอบคุณภาพ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มมาตรฐานและมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค


มะขามป้อม เป็นสมุนไพรไทยที่มีศักยภาพสูง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Phyllanthus emblica L. จัดเป็นพืชในวงศ์ Euphorbiaceae ผลมะขามป้อมมีสรรพคุณแก้ไอ ขับเสมหะ แก้ท้องเสีย นอกจากนี้มีรายงานวิจัยเกี่ยวกับคุณสมบัติการบำรุงดูแลผิวพรรณ ได้แก่ ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและคุณสมบัติทำให้ผิวขาวขึ้น ดังนั้น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดย สถาบันวิจัยสมุนไพรจึงพัฒนาสมุนไพรไทยชนิดนี้เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยศึกษาวิธีการเตรียมสารสกัดจากมะขามป้อม ซึ่งปลูกในสวนสมุนไพรกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จังหวัดจันทบุรี ที่มีการควบคุมคุณภาพและการทดสอบความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน นำมาวิจัยและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ซึ่งมีการทดสอบด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพในอาสาสมัคร 

ผลจากการศึกษาวิจัยพบว่า สารสกัดมะขามป้อม สามารถพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางได้หลายรูปแบบ ได้แก่  เซรั่มมะขามป้อม (Emblica serum), มาส์กหน้ามะขามป้อม (Emblica sleeping mask), โลชั่นบำรุงผิวมะขามป้อม (Emblica body lotion) และ เจลบำรุงผิวหน้ามะขามป้อม (Emblica facial gel) ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาทั้ง 4 รูปแบบ ผ่านการประเมิน ความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในอาสาสมัคร โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว สำหรับการประเมินด้านประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว พบว่า ผลิตภัณฑ์เซรั่มมะขามป้อมมีคุณสมบัติทำให้ผิวขาวกระจ่างใสสูงสุด รองลงมา คือ มาส์กหน้ามะขามป้อม, โลชั่นบำรุงผิวมะขามป้อม และ เจลบำรุงผิวหน้ามะขามป้อม ตามลำดับ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลด้านการลดเลือนริ้วรอยและปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนดีที่สุด คือ มาส์กหน้ามะขามป้อม และผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความยืดหยุ่นและกระชับผิวได้ดีที่สุด คือ เจลบำรุงผิวหน้ามะขามป้อม  


นายแพทย์สุขุม กล่าวต่ออีกว่า นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากสารสกัดมะขามป้อมที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพในการบำรุงผิวพรรณ ช่วยลดริ้วรอย ทำให้ผิวกระจ่างใส เพิ่มความยืดหยุ่นและกระชับผิวได้ ซึ่งช่วยยกระดับศักยภาพของสมุนไพรไทยจากแหล่งธรรมชาติให้มีมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์พร้อมจะถ่ายทอดองค์ความรู้สู่เอกชนที่สนใจ   เพื่อนำไปผลิตเชิงพาณิชย์ อันเป็นการส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากสมุนไพรไทยในประเทศไทยให้มีคุณภาพมาตรฐาน และความปลอดภัย อีกทั้งผู้บริโภคสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากสมุนไพรไทยได้อย่างมั่นใจ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องสำอางจากต่างประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นงานวิจัยต้นแบบในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพรโดยใช้องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์อย่างครบวงจร เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ผู้ประกอบการ จึงเป็นการตอบสนองนโยบายรัฐบาลให้ประเทศไทย   มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว

ช้างพลายขุนเดช

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” ไปสถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” สู่สถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง จบดราม่า หลังฝากเลี้ยงที่มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่