สำนักข่าวไทย 26 พ.ค.- จับตาที่ประชุม มส. 30 พ.ค. พิจารณาตำแหน่ง พระผู้ใหญ่ต้องคดีเงินทอนวัดหรือไม่
นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม(มส.) ในฐานะรองโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้า การพิจารณาตำแหน่งการปกครอง ของ พระสงฆ์ ทั้งหมดที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฟอกเงิน ทุจริตงบอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม โดยเฉพาะพระผู้ใหญ่อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม ทั้ง3 รูป ที่ยังมีตำแหน่ง เจ้าอาวาส และเจ้าภาคคณะอยู่ คือ พระพรหมเมธี เจ้าคณะภาค 4-7 ธรรมยุต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามและรองเลขาธิการคณะธรรมยุต , พระพรหมสิทธิ เจ้าคณะภาค10 เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ และ พระพรหมดิลก เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เจ้าอาวาสวัดสามพระยา ซึ่งเป็นอำนาจของเจ้าคณะปกครองยังรอดูว่าจะดำเนินการอย่างไร
แต่เนื่องจากทั้ง3 วัดเป็นพระอารามหลวงหากมีมติปลดหรือพักงานจากตำแหน่งเจ้าอาวาสและเจ้าคณะภาค จะต้องแจ้งเพื่อทราบในวาระการประชุมมส.ที่จะมีขึ้นในวันที่30 พ.ค.นี้ เพื่อรับรองมติ สำหรับวาระการประชุมจะแยกเป็น2 ส่วน คือ วาระปกติที่มหาเถรสมาคมต้องพิจารณา และ วาระจร ที่กรรมการมหาเถรสมาคม ถือเข้าไปเสนอที่ด้วยตัวเอง ส่วนการประชุมมส.วันที่ 30 พ.ค.นี้ จะมีการพิจารณาปลดหรือสั่งพักทุกตำแหน่งทางการปกครองสงฆ์ของพระผู้ใหญ่ทั้ง3 รูปหรือไม่นั้น ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ก่อนจะมีการประชุม
อย่างไรก็ตามที่มีข่าวออกมาว่า พระที่ถูกคุมตัวในเรือนจำกรุงเทพฯไม่ได้เปล่งวาจาสึก จะขาดจากความเป็นพระหรือไม่ หากมองในทางพระธรรมวินัย ขึ้นอยู่กับเจ้าคณะปกครองจะพิจารณาเป็นอำนาจในการวินิจฉัยโดยตรง แต่ในทางกฏหมายอาญา ให้ถือตามกฏระเบียบที่เจ้าพนักงานดำเนินการตามกฏหมาย.-สำนักข่าวไทย