กบง.อุ้มราคาแอลพีจีไม่เกินถังละ 363 บาท

กรุงเทพฯ 24 พ.ค. – ก.พลังงาน ยันค่าไฟปีนี้ไม่ปรับขึ้นตามราคาน้ำมันแน่นอน จับตาราคาต้นทุนสะท้อนค่าไฟต้นปีหน้า ด้านกบง.ควักเงินกองทุน 300 ล้านบาท อุ้มแอลพีจีให้อยู่ที่ราคา 363 บาท/ถัง 15 กก. เริ่ม 28 พ.ค. นี้


นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ยืนยันค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที)  ไม่ได้รับผลกระทบจากระดับราคาน้ำมันตลาดโลกที่สูงขึ้น เนื่องจากสูตรของราคาก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าจะอิงราคาน้ำมันเตาย้อนหลัง 6-12 เดือนย้อนหลัง จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่าค่าเอฟทีงวดเดือนก.ย.-ธ.ค.2561 หรือจนถึงสิ้นปีนี้ จะยังไม่มีการปรับขึ้นแน่นอน แต่จะเห็นผลกระทบจากราคาน้ำมันจะสะท้อนไปยังราคาก๊าซฯ และค่าไฟในช่วงต้นปีหน้า

 ทั้งนี้ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันที่จะส่งผลต่อราคาก๊าซฯ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า และกระทบต่อค่าเอฟที เพื่อพิจารณารายละเอียดดูแลผลกระทบตามความเหมาะสม โดยยอมรับว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกที่ผันผวนอยู่ในระดับสูงในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันในไทยเฉลี่ยปรับขึ้น 4 บาทต่อลิตร โดยเฉพาะดีเซลเพิ่มขึ้น 3.20 บาทต่อลิตร ก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) เพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 395 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม(กก.) หรือปรับขึ้น 40 บาทต่อถัง


อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าแนวโน้มราคาแอลพีจีในประเทศจะปรับลดลงตามแนวโน้มราคาแอลพีจีตลาดโลกในช่วงนี้ที่เริ่มปรับตัวลดลงแล้ว เนื่องจากประเทศแถบตะวันตกมีความต้องการแอลพีจีน้อยลง เพราะสภาพอากาศที่เริ่มร้อนขึ้นตามฤดูกาล

ส่วนกรณีที่มีการแชร์ข้อมูลในโลกโซเชียลรณรงค์ไม่ให้เติมน้ำมันปั๊มปตท.ของบริษัทปตท.จำกัด(มหาชน) นั้น เรื่องนี้ประชาชนผู้บริโภคมีสิทธิ์เลือกใช้บริการตามกลไกตลาด โดยอาจเลือกใช้บริการน้ำมันยี่ห้อที่จำหน่ายในราคาถูกกว่า ขณะที่กระทรวงพลังงานยืนยันมีการส่งเสริมให้ผู้ค้าปลีกน้ำมันมีการแข่งขันกันอยู่แล้ว โดยกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) จะควบคุมคุณภาพของน้ำมันให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน พร้อมกับผ่อนผันให้ผู้ค้าแจ้งการปรับเปลี่ยนราคาน้ำมันขายปลีกล่วงหน้าได้ 1 วัน

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติเห็นชอบนำเงินกองทุนในส่วนของแอลพีจีชดเชยราคาแอลพีจีให้อยู่ในระดับราคาถังละ 363 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม จากก่อนหน้านี้มีการขึ้นราคาไปอยู่ที่ระดับสูงถึง 395 บาทต่อถัง 15 กก. มีผลตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.2561 เพื่อบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพจากผลกระทบราคาก๊าซหุงต้มปรับขึ้น


“เนื่องจากราคาแอลพีจีตลาดโลกเร่ิมลดลงจาก 580 เหรียญสหรัฐต่อตัน มาอยู่ที่ 543 เหรียญสหรัฐต่อตัน และมีแนวโน้มจะลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาแอลพีจีถังขนาด 15 กก. น่าจะลดลงได้อีกประมาณ 20 บาท เบื้องต้น กบง.จึงคาดว่าจะใช้เงินกองทุนในส่วนของแอลพีจีอุดหนุนราคาแอลพีจีขนาดบรรรจุถัง 15 กก.ที่ 10 บาทต่อถัง 15 กก. ให้อยู่ที่ราคา 363 บาทต่อถัง 15 กก. จากปัจจุบันราคาแอลพีจีบรรจุถังขนาด 15 กก. ราคา 395 บาท คิดเป็นวงเงิน 300 ล้านบาท จากสถานะกองทุนแอลพีจีมีเงินทั้งสิ้น 551 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอที่จะดูแลราคาให้มีเสถียรภาพเป็นเวลา 2 เดือน แต่เชื่อว่าภายใน 2 เดือนนับจากนี้ แอลพีจีตลาดโลกจะปรับตัวลดลงในช่วงเข้าสู่ฤดูร้อน ทำให้รัฐจะอุดหนุนน้อยลงตามไปด้วย และเชื่อว่าราคาลดลงสู่ภาวะปกติที่ 353 บาทต่อถัง 15 กก. ดังนั้นในระยะยาวรัฐก็ไม่มีความจำเป็นต้องอุดหนุนแอลพีจีอีกต่อไป”

นอกจากนี้ ที่ประชุมกบง.ยังเห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบจากการขึ้นราคาน้ำมันดีเซลต่อประชาชนด้วยการตรึงราคาดีเซลให้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร โดยใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุนราคา 50% ของราคาที่จะปรับขึ้น ก่อนที่จะมีการจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลเกรดพิเศษ หรือบี 20 ให้รถบรรทุกและรถโดยสารขนาดใหญ่ต่ำกว่าดีเซลบี 7 จำนวน 3 บาทต่อลิตรช่วงต้นเดือนก.ค.นี้ เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกผันผวนปรับตัวสูงเกินระดับ 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ณ วันที่ 24 พ.ค.มีราคาอยู่ที่ 29.79 บาทต่อลิตร

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานยืนยันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีสถานะ 3.05 หมื่นล้านบาท โดยเป็นส่วนของแอลพีจี 500 ล้านบาท น้ำมันมีประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพียงพอที่จะรองรับการอุดหนุนราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 10 เดือนในกรณีที่ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกไม่เกิน 90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ประชุม JBC

จับตาประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” คลายปมร้อนชายแดน

14 มิ.ย. – จับตาการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” เจรจาลดความตึงเครียดชายแดน โดยฝ่ายไทยเดินทางถึงกรุงพนมเปญแล้ว มุ่งใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ขณะที่ “ภูมิธรรม” หวังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและมีข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่าย เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย พร้อมคณะฝ่ายไทยเดินทางถึงกรุงพนมเปญ เพื่อเข้าร่วมการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 โดยมีนาย Khum Ponnaban อธิบดีกรม Technique of Border Affairs General Department หน่วยงาน State Secretariat of Border Affairs (เทียบเท่ากระทรวง) ของกัมพูชา ให้การต้อนรับที่ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงพนมเปญ นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว หวังการประชุม JBC จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและมีข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อความเป็นมิตรและการรักษาประโยชน์ร่วมของไทยและกัมพูชาให้กลับมาสู่ภาวะปกติ .-สำนักข่าวไทย

เตือนไทยตอนบนฝนตกหนัก-พายุหวู่ติบ ขึ้นฝั่งจีนวันนี้

กทม. 14 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนลดลง ขณะที่พายุ “หวู่ติบ” ขึ้นฝั่งจีนวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง “หวู่ติบ” บริเวณอ่าวตังเกี๋ย คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนในวันนี้ (14 มิ.ย. 68) โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย