กรุงเทพฯ 24 พ.ค.- “วิษณุ” ชี้ CRYPTOCURRENCY เป็นดาบ 2 คม เตือนประชาชนที่สนใจระบบเงินใหม่ ให้มีความระมัดระวังอย่าตกเป็นเหยื่อ ต้องรู้เท่าทัน เผย รัฐบาลออกกฎหมายป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เน้นย้ำ ขรก.ศึกษาให้มากขึ้น
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ปาฐกถาพิเศษ ในงาน Symposium Thailand 4.0 FINTECH & CRYPTOCURRENCY vs. LAW ENFORCEMENT ตอนหนึ่งว่า ความหมายของ CRYPTO แปลว่า เข้ารหัส CURRENCY แปลว่า สกุลเงิน CRYPTOCURRENCY จึงแปลว่า สกุลเงินที่เข้ารหัส หรือ เงินเสมือนจริง ที่สามารถใช้จ่ายได้จริง ซึ่งในปัจจุบันมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย การจัดงานนี้จึงถือเป็นการสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน เพราะเป็นเรื่องใหม่ เป็นเรื่องยาก รัฐบาลจึงจำเป็นต้องอาศัยสถาบันการเงิน ที่จะช่วยสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน
“นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานปัญหาของการใช้บิทคอยน์ (Bitcoin) จากต่างประเทศ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งเป็นช่องทางในการฟอกเงิน การก่อการร้าย ยาเสพติด และการใช้ซื้อเสียงในการเลือกตั้งของประเทศไทย รัฐบาลจึงอยู่นิ่งไม่ได้ จำเป็นต้องศึกษาในรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น จึงหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. ) กระทรวงยุติธรรม กระทรวงต่างประเทศ รวบรวมข้อมูลทั้งหมด และออกเป็นพระราชกำหนดเรียบร้อยแล้ว” นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวว่า ในอนาคตสามารถออกกฎหมายลูกและเพิ่มเติม รวมถึง สามารถปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้สอดคล้องกับปัจจุบัน และการพัฒนาในอนาคตมากที่สุด ซึ่งอาจจะออกเป็นพระราชบัญญัติ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ และทำให้มีความสมบูรณ์ต่อไป เนื่องจาก CRYPTOCURRENCY เป็นเหมือนดาบ 2 คม ที่มีทั้งประโยชน์และโทษ โดยประโยชน์ คือ เป็นระบบการลงทุนที่สร้างสรรค์ และเหมาะสำหรับผู้ลงทุนกลุ่ม สตาร์ทอัพ ส่วนโทษ คือ ต้องรู้เท่าทันความเสี่ยง
“จึงขอให้ผู้ที่จะลงทุน เมื่อเข้าไปอยู่ในความเสี่ยง จะต้องรู้เท่าทัน และระมัดระวัง โดยรัฐบาลจะมีกลไกดูแลธุรกรรมชนิดนี้ จากนี้ รัฐบาลจะเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ ข้าราชการทุกส่วน รู้จักและศึกษาธุรกรรมชนิดนี้มากขึ้น โดยเฉพาะ กรมบังคับคดี และอัยการ” นายวิษณุ กล่าว .- สำนักข่าวไทย