นนทบุรี 22 พ.ค. – พาณิชย์เผยส่งออกเดือนเมษายน 61 ขยายตัวร้อยละ 12.3 สูงสุดในรอบ 7 ปี และต่อเนื่องเดือนที่ 14 เดือน ขณะที่ส่งออกทุเรียนไปจีนโตร้อยละ 774
นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) แถลงการค้าระหว่างประเทศเดือนเมษายน 2561 ว่า การส่งออกยังคงขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 การส่งออกมีมูลค่ารวม 18,946 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 12.3 และสูงสุดในรอบ 7 ปี คาดว่าแนวโน้มการส่งออกปีนี้จะทำได้ใกล้เคียงเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะขยายตัวร้อยละ 8 ซึ่งปัจจุบันการส่งออกขยายตัวเกินร้อยละ 8 แล้วจะขยับเป้าหมายการส่งออกเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ขึ้นอยู่ระดับนโยบายพิจารณาต่อไป
สำหรับสินค้าเกษตร เกษตรอุตสาหกรรม และอาหารการส่งออกยังขยายตัวดีขึ้นมาก ทั้งข้าว มันสำปะหลัง ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 9.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ส่วนการส่งออกทุเรียนตลาดโลกเดือนเมษายนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 207 มูลค่ารวม 220 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 135 ราคาเพิ่มขึ้นร้อยละ 30.6 โดยเฉพาะเดือนเมษายน 2561 มีปริมาณส่งออกรวม 120,000 ตัน ปริมาณทุเรียนร้อยละ 50 ส่งไปตลาดจีนปริมาณ 56,000 ตัน รองลงมาคือ เวียดนาม ร้อยละ 28 ปริมาณ 41,000 ตัน ฮ่องกง 21,000 ตัน และไต้หวัน ปริมาณ 3,000 ตัน โดยการส่งออกเฉพาะเดือนเมษายน 2561 แบ่งเป็นการส่งออกทุเรียนไปจีนขยายตัวร้อยละ 774 มูลค่า 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนในช่วง 4 เดือนแรกปี 2561 ( ม.ค.-เม.ย.) ทุเรียนส่งออกปริมาณรวม 140,000 ตัน มูลค่ารวม 8,914 ล้านบาท คาดว่าการส่งออกทุเรียนไปตลาดโลกจะดีต่อเนื่อง โดยอี-คอมเมิร์ซมีส่วนช่วยให้การส่งออกผลไม้ดีขึ้น จึงต้องการให้รัฐบาลสานต่อนโยบายนี้ต่อไปกับผลไม้อื่น ๆ ของไทย พร้อมกันนี้ขอให้ทุกหน่วยงานและเกษตรกรร่วมกันดูแลคุณภาพด้วย
ส่วนการนำเข้ามีมูลค่ารวม 20,229 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 20.36 ส่งผลให้ขาดดุลการค้า 1,283 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การนำเข้าที่เพิ่มขึ้นไม่น่ากังวล เพราะเป็นการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบ น้ำมันดิบ และเครื่องจักรกล นับเป็นสัญญาณที่ดีมากกว่า รวม 4 เดือนแรกปีนี้การส่งออก มีมูลค่ารวม 81,775 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5 จากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ส่วนการนำเข้า 81,102 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.2 จากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้ารวม 673 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวว่า ปัจจัยส่งผลกระทบต่อการส่งออกยังไม่สามารถเบาใจได้ทั้งหมด เพราะยังมีปัจจัยมหภาคที่ต้องจับตา เช่น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ ค่าเงินบาทจะยังคงผันผวนต่อไป ด้านราคาน้ำมันคาดว่าจะไม่เป็นปัจจัยเสี่ยงมากนัก โดยราคาน้ำมันดิบที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ในช่วง 55-56 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลนั้น ขณะนี้ราคาตลาดโลกปรับสูงขึ้นเกินกว่าที่กำหนดประมาณการไว้ แต่กระทรวงพาณิชย์จะยังไม่มีการปรับจะรอดูสถานการณ์ราคาไตรมาส 2 หรือ 6 เดือนแรกปีนี้ก่อน . – สำนักข่าวไทย