ทันตแพทยสภา ค้านร่าง พ.ร.บ.นิวเคลียร์ ก.วิทย์ฯ

กทม.22พ.ค.-ทันตแพทยสภา-สภาวิชาชีพทางการแพทย์หนุนร่าง พ.ร.บ.นิวเคลียร์ฉบับที่แก้ไขโดยสนช.ระบุแก้ไขปัญหาได้ตรงประเด็น แต่ไม่เห็นด้วยกับ ร่าง พ.ร.บ.นิวเคลียร์ฉบับที่กระทรวงวิทย์ฯ แก้ไข เหตุไม่ได้แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเครื่องเอกซเรย์ทางการแพทย์ เพียงแค่ต้องการลดกระแสค้าน


ผศ.(พิเศษ)ทพ.ไพศาล กังวลกิจ นายกทันตแพทยสภา กล่าวถึงการประเมินผลกระทบจากการบังคับใช้ พ.ร.บ.พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ.2559 ซึ่งสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ(ปส.)ให้มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ทำวิจัยให้ ว่า คณะผู้วิจัยได้ให้ข้อเสนอแนะที่น่าสนใจ 2 ข้อ ได้แก่ 1.ควรแยกประเภทเครื่องกำเนิดรังสีตามลักษณะการใช้งานและปริมาณรังสี และ 2.ควรแยกเครื่องกำเนิดรังสีทางการแพทย์ ออกจากเครื่องกำเนิดรังสีประเภทอื่นและให้กระทรวงสาธารณสุข กำกับดูแล เนื่องจากมีประสบการณ์ในการดูแลมานานและมีกฎหมายรองรับ ซึ่งการแยกประเภทเครื่องกำเนิดรังสีจะเป็นการปลดล็อคปัญหาที่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาอื่นที่ตามมาอย่างเป็นเหตุเป็นผล


นายกทันตแพทยสภา กล่าวต่อว่า จะเห็นได้ว่าผลการวิจัยนี้จึงสอดคล้องกับสิ่งที่ทันตแพทยสภาและบุคลากรทางการแพทย์เรียกร้องให้ดำเนินการแก้ไขมาโดยตลอด ซึ่งสอดคล้องกับร่างแก้ไขกฎหมายที่เสนอโดย นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งสภาวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุข ตลอดจน  ผู้ให้บริการสาธารณสุข ตัวแทนโรงพยาบาลต่างๆ มีมติประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะให้มีการแก้ไขกฎหมายตามร่างที่เสนอโดย                นพ.เจตน์ นี้และได้ทำหนังสือส่งไปยังนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และประธานกรรมาธิการการสาธารณสุขของ สนช. พร้อมทั้งส่งรายงานผลการวิจัยที่ดำเนินการโดยนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเกษตรไปด้วย 


ผศ.(พิเศษ) ทพ.ไพศาล กล่าวว่า ในส่วนร่างกฎหมายพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดำเนินการแก้ไขอยู่ในขณะนี้ทันตแพทยสภาเห็นว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อลดกระแสการคัดค้านและเพื่อเบี่ยงเบนทำให้เข้าใจว่าได้มอบอำนาจการควบคุมกำกับเครื่องเอกซเรย์วินิจฉัยทางการแพทย์ให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้กำกับดูแลเมื่อเทียบกับร่างกฎหมายที่เสนอโดย สนช.แต่โดยเนื้อแท้แล้วยังควบคุมโดย ปส.หากร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านการพิจารณาเชื่อว่าจะยังเกิดปัญหาในทางปฏิบัติและไม่ได้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด ดังนั้น ทันตแพทยสภาและสภาวิชาชีพทางการแพทย์จึงไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายของกระทรวงวิทย์ฯ และจะผลักดันให้ สนช.รับหลักการตามร่างแก้ไขกฎหมายฉบับของ สนช.แทน .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รับชันสูตรศพ “ผกก.โจ้” ยาก เหตุศพไม่อยู่สภาพเดิม

ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับชันสูตรศพ ผกก.โจ้ ยาก เพราะศพไม่อยู่ในสภาพเดิม ยันดูวงจรปิดไม่พบพิรุธ ยังยิ้มแย้มทักทายผู้ต้องขัง ยกมือไหว้ผู้คุม แต่พบเลือดหยดข้างศพ และแขนซ้ายมีรอยกัดของสัตว์ขนาดเล็ก

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหารช่วยเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหาร พร้อมกำลังพลจิตอาสากองทัพบก เข้าช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และอพยพผู้ป่วย จากเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อน-ภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดในภาคเหนือ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อน และมีฝนฟ้าคะนอง 20%

ทลายเครือข่ายเบิกงบซ่อมรถทิพย์ ทุจริตงบ กทม.

คดีการจับกุม 7 เจ้าหน้าที่กองการกีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร ที่ร่วมกันทุจริตปลอมใบเสนอราคาเบิกเงินซ่อมรถบัส ในชั้นสอบสวนได้ให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัวไป ขณะที่เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติม หลังตำรวจออกมาเผยว่ามีความเกี่ยวข้องกับโครงการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายที่ถูกตรวจสอบไปก่อนหน้านี้

กระบะตัดหน้ารถไฟ ชนสนั่น ตาย 4 เจ็บ 6

กระบะขนคนงานจับกุ้งกุลาดำ ขับตัดหน้ารถไฟ ก่อนพุ่งชนสนั่น ตายคาที่ 4 ศพ เจ็บระนาวอีก 6 ราย ขณะที่คนขับไร้อาการบาดเจ็บ อ้างไม่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือน ตำรวจคุมตัวตรวจพบฉี่ม่วง เจ้าตัวยอมรับเสพยาบ้า ก่อนแจ้ง 2 ข้อหาหนัก

ผลตรวจดีเอ็นเอ “ผกก.โจ้” ออกแล้ว ส่งให้ สน.ประชาชื่น

ออกแล้ว ผลตรวจผ้าขนหนู คดี “ผกก.โจ้” ไม่พบดีเอ็นเอของบุคคลอื่น เตรียมส่งผลให้พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ดำเนินการต่อ