กรุงเทพฯ21พ.ค.-นักวิชาการชี้ควันบุหรี่ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงโรคหลอดเลือดสมองอุดตัน คร่าชีวิตมากถึง 3 ล้านคนทั่วโลก คนไทย 1.5 หมื่นคนต่อปี องค์การอนามัยโลกกำหนดการรณรงค์งดสูบบุหรี่ ปี61“บุหรี่ตัวร้าย ทำลายหัวใจ” พบ ‘บ้าน’ สถานที่ผลิตควันสูบบุหรี่มากสุดและไร้การป้องกัน
นพ.แดเนียล เคอร์เทสซ์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลก ประจำประเทศไทย กล่าวว่า แต่ละปีองค์การอนามัยโลกกำหนดหัวข้อรณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลก ปีนี้กำหนด “บุหรี่ตัวร้าย ทำลายหัวใจ” โดยพบว่าพิษภัยของบุหรี่ เป็นปัจจัยสำคัญทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดอุดตันและโรคหลอดเลือดส่วนปลาย และการสูบบุหรี่ คร่าชีวิตคนทั่วโลกถึงปีละ 3 ล้านคน สำหรับประเทศไทย มีคนไทยเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดประมาณ 15,000 คนต่อปี และแม้ว่าประเทศไทยจะมีการควบคุมยาสูบ และรณรงค์ แต่พบว่ายังมีคนไทยถึง 11 ล้านคนสูบบุหรี่ เกิดการสูญเสียงบประมาณด้านสุขภาพ โดยเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจในปี 2552 ถึง 75,000 ล้านบาท ทั้งนี้การเลิกบุหรี่ ได้ใน1 ปี จะช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจวายได้ครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับผู้สูบบุหรี่
ผศ.นพ.ครรชิต ลิขิตธนสมบัติ นายกสมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคหลอดเลือดสมอง ถึงปีละ1 แสนคน ซึ่งนับเป็นอัตราการเสียชีวิต 1 ใน 5 ของคนไทย ทั้งนี้ยังพบว่าคนไทยอายุ 30-45 ปีที่สูบบุหรี่ มีโอกาสเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดมากกว่า คนไม่สูบบุหรี่ถึง 4 เท่า
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า ควันบุหรี่มือสอง เป็นสาเหตุของการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตัน การได้รับควันบุหรี่มือสองเพียง 30 นาทีก็เกิดอันตรายต่อเยื่อบึหลอดเลือดได้และทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้น้อยลง ยังส่งผลให้ผนังหลอดเลือดหัวใจหนาขึ้น เกิดการอักเสบ ควันบุหรี่ยังเข้าไปทำปฏิกิริยากับไขมันตัวดี เอชดีแอล ให้ลดลงและไขมันตัวร้ายแอลดีแอลเพิ่มขึ้นและมีผลต่อระดับฮอร์โมนให้เปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ พบว่าควันบุหรี่มือสอง มักเกิดขึ้นภายในบ้าน ฉะนั้น ต้องอาศัยการรณรงค์และเพิ่มความตระหนักให้เกิดขึ้น จึงจะช่วยได้ และจากการบังคับใช้กฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ควบคุมยาสูบ 2560 แม้จะมีการประกาศห้ามสูบบหรี่ในแต่ละสถานที่มากขึ้น แต่ปัญหาภายในบ้านเป็นเรื่องของความตระหนัก และพบว่าควันมือสองมักเกิดขึ้นในต่างจังหวัดภายในบ้าน ดังนั้นกลไลการแก้ไขปัญหาระดับจังหวัดที่จัดตั้งขึ้น ต้องมีส่วนช่วยสนับสนุน
ด้านนายสรรพ์ ลาภมหาประเสริฐ อดีตนักสูบ กล่าวว่า เพิ่งตัดสินเลิกสูบบุหรี่ และเพิ่งเลิกได้อย่างเด็ดขาดเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา หลังจากมีการสูบมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี โดยเริ่มสูบตั้งแต่อายุ 18 ปีสาเหตุที่เลิกสูบ เพราะไปพบแพทย์ แล้วพบว่าตนเองป่วยโรคหัวใจและหลอด จึงคิดเลิกสูบบุหรี่ ตอนแรกก็ใช้เวลานานแต่ความตั้งใจและการสนับสนุนจากครอบครัวทำให้เลิกได้ในที่สุด .-สำนักข่าวไทย