ระทึก! ยิงสนั่นรถตู้

สมุทรปราการ 19 พ.ค.61- ตำรวจยิงสนั่นกลางถนน รถตู้ซิ่งหนีชนแหลกก่อนจนมุมทิ้งรถวิ่งหนี โดนยิงเข้าขาร่วงกองกับพื้น 


จากกรณีผู้ใชเฟซบุ๊กชื่อ “บังฮาด แฝดนรก” ได้โพสต์คลิป พร้อมข้อความ “บางนาขากลับบ้านตามมาติดๆ” จนทำให้มีผู้เข้ามาคอมเมนต์และแชร์คลิปดังกล่าวจำนวนมาก ซึ่งภายในคลิปมีรถตู้โดยสารสาธารณะคันหนึ่งพยายามแซงขวามา ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งได้เดินมาจากข้างหน้าพร้อมถืออาวุธปืนพยายามหยุดรถ พร้อมเรียกคนขับให้ลงมาจากรถ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินมาที่ประตูฝั่งคนขับ คนขับได้เร่งเครื่องเพื่อจะหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยิงปืนเข้าที่ยางรถด้านหน้าฝั่งขวา คนขับรถตู้โดยสารคันดังกล่าวไม่ยอมหยุดและขับหนีไปทางบางนา เจ้าหน้าที่จึงได้รีบขึ้นรถจักรยานยนต์ซึ่งจอดขวางอยู่ด้านหน้าขับขี่ติดตามไปไกลกว่า 2 กิโลเมตร จึงพบรถตู้โดยสารคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณช่องทางเข้าเลนด่วน ส่วนคนขับได้เปิดประตูวิ่งหนีข้ามถนนไปทางคู่ขนานช่วงบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลซิตี้ บางนา ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปืนยิงสกัด จนล้มลงไปนอนกับพื้นถนน แล้วเข้าทำการจับกุม โดยมีเจ้าหน้าที่อาสาและประชาชนที่อยู่ในบริเวณนั้นช่วยกันจับตัวคนขับรถตู้โดยสารรายนี้ไว้ได้

ล่าสุด เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 19 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจนทราบว่า เหตุเกิดบนถนนเทพรัตน ขาเข้า หลักกิโลเมตรที่ 6 ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปรากฏในคลิปทราบชื่อต่อมา ส.ต.ท.กรวิทย์ ทานุมา ผบ.หมู่ จราจร สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ สำหรับคนขับรถตู้โดยสารคันดังกล่าวทราบชื่อต่อมา นายณรงค์กิติ พั้วงาม อายุ 31 ปี ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล


จากการสอบถาม ส.ต.ท.กรวิทย์ ได้เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะที่ตนและ ส.ต.ท.วานิช สิทธิวงศ์ ผบ.หมู่ จราจร สภ.บางแก้ว กำลังปฏิบัติหน้าที่งานจราจรบริเวณหน้าห้างโฮมโปรบางนา ถนนเทพรัตนหลักกิโลเมตรที่ 12 ขาเข้า ระหว่างนั้นพบเห็นรถตู้โดยสารสาธารณะ โตโยต้า สีขาว ทะเบียน 10-6068 ชลบุรี สายพัทยา-กรุงเทพ ได้จอดส่งผู้โดยสารซ้อนคันในลักษณะกีดขวางการจราจร ดังนั้น ส.ต.ท.วานิช จึงเข้าไปเรียกให้หยุดข้างทางเพื่อจะออกใบสั่ง แต่ในระหว่างที่ตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่รถ ส.ต.ท.วานิช สังเกตเห็นว่าคนขับท่าทางมีพิรุธ จึงนำชื่อเข้าตรวจสอบในระบบประวัติบุคคลตามหมายจับผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ผลปรากฏว่ามีหมายจับของศาลจังหวัดพัทยา ข้อหาขับเสพและหลบหนีการคุมประพฤติของเจ้าหน้าที่ ส.ต.ท.วานิช จึงเชิญตัวคนขับลงจากรถเพื่อจะเตรียมจับกุม แต่คนขับรายนี้ได้พยายามจะขับรถออกไป ส.ต.ท.วานิช จึงไปคว้ากุญแจรถตู้ แต่คนขับได้ออกรถโดยลากตัวของ ส.ต.ท.วานิช ติดรถไปด้วยระยะทางเกือบ 50 เมตร จนกระทั่ง ส.ต.ท.วานิช ตัดสินใจปล่อยมือเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ก่อนจะวิทยุขอกำลังเสริม ซึ่งตนอยู่ใกล้สุดและพบเห็นเพื่อนตำรวจด้วยการถูกลากไปกับรถตู้ จึงขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามไป 

ส.ต.ท.กรวิทย์ เล่าอีกว่า ระหว่างทางได้แสดงตัวให้จอด แต่คนขับรถตู้โดยสารกลับไม่ยอมจอด และยังได้เฉี่ยวชนรถคันหน้าอีกหลายคัน จึงขับขี่รถไล่ไปจนมาถึงหลักกิโลเมตรที่ 6 ซึ่งเป็นจังหวะที่รถชะลอตัว ตนได้ชักอาวุธปืนประจำกายขึ้นมาขู่ให้ยอมลงมาจากรถเพื่อจับกุม แต่คนขับรถตู้ดังกล่าวยังเร่งเครื่องหนีไปอีกจนจอดรถทิ้งไว้ข้างทาง ก่อนที่จะวิ่งนี้ข้ามไปยังทางคู่ขนาน ไปขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างและล็อกคอคนขับรถจักรยานยนต์เพื่อให้พาหลบหนี ตนจึงตะโกนให้ประชาชนช่วยกันจับ แต่คนขับรายนี้ไม่ยอมและพยายามวิ่งกลับมาที่รถอีกครั้งก่อนจะประจันหน้ากับตน แล้ววิ่งหลบหนีกลางถนน ตนเห็นว่าหากปล่อยให้วิ่งหนีต่อไปอาจจะเกิดอันตรายต่อประชาชนที่สัญจรหรือเดินอยู่ข้างทาง จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนพกประจำกายยิงใส่ขาท่อนล่าง เพื่อหวังให้คนขับรายนี้สยบความบ้าคลั่ง และป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อประชาชนในละแวกที่เกิดเหตุ ซึ่งตนยืนยันว่าทำตามยุทธวิธีของเจ้าหน้าที่ตำรวจเนื่องจากพบว่าคนขับมีพฤติกรรมที่อาจเกิดอันตรายต่อบุคคลอื่นได้หากปล่อยตัวไป

ขณะที่ พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางแก้ว ระบุว่าหลังจากได้รับรายงานในเรื่องนี้ เบื้องต้นได้สั่งการให้เข้าไปดูแลเรื่องการรักษาอาการของนายณรงค์กิติ พร้อมทั้งเชิญตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่อยู่ในเหตุการณ์และปรากฏในคลิปมาให้ข้อมูลที่เกิดขึ้น ก่อนให้เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนสอบปากคำและลงบันทึกประจำวันไว้ ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ส่วนนายณรงค์กิติ ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการตรวจสอบพบว่ามีหมายจับติดตัวอยู่ และผลการตรวจสารเสพติดในกระแสเลือดพบว่ามีการเสพสารเสพติดจริง ด้านคนขับรถรายนี้ออกมาอ้างว่าตนเองไม่อยากติดคุกเพราะรู้ว่าเพิ่งเสพยาบ้ามาไม่กี่วันนี้ ตนเองมีลูกมีเมียจึงไม่อยากติดคุกและตัดสินใจหลบหนีดังกล่าว


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบปากคำอย่างละเอียดทั้งสองฝ่ายอีกครั้งหลังจากที่นายณรงค์กิติ มีความเห็นจากแพทย์ว่ามีอาการดีขึ้นและพร้อมจะให้ปากคำ ส่วนรถตู้คันเกิดเหตุได้สั่งอายัดไว้ชั่วคราว พร้อมทั้งฝากประชาสัมพันธ์ถึงผู้เสียหายที่ถูกรถตู้คันดังกล่าวเฉี่ยวชน ที่ยังไม่ได้เข้าแจ้งความก็สามารถเดินทางมาแจ้งได้ที่ สภ.บางแก้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ผบ.ทบ. ตรวจฐานภูมะเขือ ขอบคุณกำลังพลทุ่มเทปฏิบัติงาน

23 ส.ค.- ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ย้ำกำลังพลปฏิบัติงานเต็มความสามารถ ตั้งอยู่บนความปลอดภัย เมื่อวันที่ 23 ส.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) พร้อม พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสนาธิการทหารบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร เดินทางมาตรวจเยี่ยม และรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของฐานการภูมะเขือ โดยมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยฝ่ายเสนาธิการกองกำลังสุรนารี, ผู้บังคับหน่วย และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมปฏิบัติภารกิจ ผู้บัญชาการทหารบก รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ และการปฏิบัติงาน ณ ฐานปฏิบัติการภูมะเขือกลาง พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ผู้บัญชาการทหารทัพบก กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ทุ่มเทปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ให้ปฏิบัติภารกิจอย่างปลอดภัย จากนั้นได้เดินดูบริเวณฐานธุรการและพื้นที่ต่างๆ บนภูมะเขือ -สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์ซากสะพานลอยถล่ม ขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว

จันทบุรี 23 ส.ค.- เร่งเคลียร์ซาก! เหตุสะพานลอยคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ส่งผลเช้านี้การจราจรติดขัดสะสม คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา พื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล้องวจรปิดร้านขายของชำบันทึกภาพวินาทีระทึก  ขณะคานสะพานพังถล่ม โดยยังมีคนงานเดินอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุหลายสิบคน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบรถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถเครนของบริษัทรับเหมาเอกชนอีก 1 คัน ถูกคานสะพาน คอนกรีตที่หนักรวมกว่า 116 ตัน ถล่มลงมาทับพังเสียหาย กีดขวางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เบื้องต้นกรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เร่งดำเนินการใช้แยกคอนกรีตตัดคานสะพานออก เพื่อง่ายต่อการเคลียร์เส้นทาง เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าสะพานลอยแห่งนี้ มีรูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย เสาเตาหม้อคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 2 ต้น มีความกว้างของทางเดินบนสะพาน 2.4 เมตร พร้อมราวจับและหลังคายาวตลอดทางเดินราว 36 เมตร ซึ่งครอบคลุมบันไดทั้งขาขึ้นและลง […]

อัญเชิญ “พระบรมรูป ร.7” องค์ใหม่ ประดิษฐานอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 23 ส.ค.- อัญเชิญ “พระบรมรูปรัชกาลที่ 7” องค์ใหม่ ประดิษฐานอาคารรัฐสภา ใหญ่กว่าพระองค์จริง 4 เท่า สูง 7.7 เมตร ด้าน “วันนอร์” คาดแล้วเสร็จ พ.ค.69 เตรียมหารือ สนว. จัดพระราชพิธีเปิดฯ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 นายศิโรจน์ แพทย์พันธุ์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมข้าราชการรัฐสภา ถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าอยู่หัว องค์ใหม่ พระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ และเครื่องประกอบ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนขึ้นประดิษฐาน หน้าอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ นายวันมูหะมัดนอร์ ยังระบุว่า การก่อสร้างและอัญเชิญพระบรมรูป จะแล้วเสร็จในช่วงเดือนพฤษภาคม 2569 โดยจะมีการหารือกับสำนักพระราชวัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดพระราชพิธีเปิดพระบรมรูปต่อไป ซึ่งวันนี้ต้องทำให้เกิดความสง่างาม รวมทั้งปรับภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบ พร้อมย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าว มีการติดตามรับผิดชอบจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานกลาง […]

มท.2 พบทหารเขมรดักซุ่มเนิน 350 ก่อนเจอทุ่นระเบิด PMN-2

23 ส.ค.- กองทัพภาคที่ 2 อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พบทหารเขมร BHQ ดักซุ่มเนิน 350 ตรวจการณ์ฝ่ายไทย ก่อนเจอทุ่นระเบิด PMN-2 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. ทหารฝ่ายไทยได้ตรวจพบทหารฝ่ายกัมพูชา ประมาณ 2–3 นาย คาดว่าเป็นหน่วย BHQ เนื่องจากมีการสวมหมวกทรง FAST สีดำ และได้กระทำการดักซุ่มตรวจการณ์ฝ่ายไทย บริเวณทิศตะวันตก เนิน 350 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ห่างจากแนวเส้นปฏิบัติการเข้ามาฝั่งไทยประมาณ 100 เมตร ขณะเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ หน่วยได้ตรวจพบ ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณจุดที่พบทหารกัมพูชาดักซุ่ม จำนวน 1 ทุ่น หน่วยจึงได้ใช้เครื่องตรวจทุ่น ตรวจสอบพื้นที่โดยละเอียด และได้ทำเครื่องหมาย เพื่อรอรับการสนับสนุนชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดดำเนินการต่อไป จากสถานการณ์ดังกล่าวยืนยันได้ว่า ฝ่ายกัมพูชายังคงลักลอบใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในพื้นที่อธิปไตยของไทย ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและละเมิดสนธิสัญญาออตตาวาอย่างต่อเนื่อง ทหารฝ่ายไทยยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมปกป้องอธิปไตยของชาติ […]