ชลบุรี 27 ก.ย.-สคบ.ชลบุรี ร่วมกับเมืองพัทยา รุดตรวจสอบร้านเสริมสวยราคามหาโหด ด้านเจ้าของร้าน ยกมือไหว้หลั่งน้ำตา ลั่นจะไม่ให้เกิดเรื่องขึ้นอีก
จากกรณีกระแสข่าวโด่งดังในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับชาวพัทยาแห่เตือนภัยร้านเสริมสวยในตำนานแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ที่เรียกเก็บค่าบริการเสริมสวยในราคามหาโหด หากลูกค้าไม่จ่ายเงินก็จะล็อกประตูร้านพร้อมข่มขู่ ซึ่งมีลูกค้าบางรายอัดคลิปวิดีโอแฉในกลุ่มพัทยา (pattaya) จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในขณะนี้
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. ( 27 ก.ย.59) นายธรินทร์ นวลฉวี เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี ร่วมกับ สคบ.จังหวัดชลบุรี สำนักงานพาณิชย์จังหวัดชลบุรี เมืองพัทยา และตำรวจ สภ.บางละมุง รุดไปตรวจสอบ ร้านเสริมสวยจอยบิวตี้ ซาลอน ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงปากซอยเนินพลับหวาน (ซอยสุขุมวิทพัทยา53) ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคจำนวนมาก ถึงพฤติกรรมการเรียกราคาค่าบริการเสริมสวยแพงเกินกว่าปกติ
เมื่อไปถึงพบว่าร้านดังกล่าวเปิดให้บริการตามปกติและมีลูกค้ากำลังใช้บริการอยู่ โดยมี นางกานดา อัปมาเก หรือเจ้ก้อย อายุ 50 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของกิจการ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ ส่วนป้ายราคาค่าบริการมีการเขียนติดประกาศไว้ แต่ไม่ชัดเจนมากนัก ลักษณะมีการจำแนกค่าบริการเป็นขั้นตอนไม่ได้รวมกันเป็นเซ็ตและราคาค่าบริการแต่ละขั้นตอนก็ไม่แน่นอนเช่นกัน อาทิ ตัดผมชาย 80-250 บาท, ตัดซอย 250-400 บาท, สระไดร์หนีบ 120-250 บาท, ยืดผม 1,000-1,500 บาท และอบไอน้ำ 500-1000 บาท เป็นต้น อีกทั้งในใบประกาศราคายังระบุข้อความเพิ่มอีกว่า “ราคาปรับเปลี่ยนตามสภาพผม, ก่อน 9 โมงเช้า และหลัง 3 ทุ่ม ชาร์จราคา 30%” ซึ่งสร้างความงุนงงแก่เจ้าหน้าที่ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก
จากการสอบถาม นางกานดา อัปมาเก ให้การว่า ตนเองเปิดบริการร้านเสริมสวยมากว่า 20 ปีแล้ว ในกรณีที่เป็นข่าวเรื่องราคาแพงเกินจริง เนื่องจากคิดค่าบริการแยกเป็นขั้นตอนทำให้มีราคาค่าบริการสูง ซึ่งลูกค้าบางรายไม่เข้าใจก็ไปโพสต์ด่าประจาน ส่วนเรื่องที่มีการกักขังลูกค้า ยอมรับว่ามีการยืนบังไม่ให้ลูกค้าออกจากร้านบ้าง แต่ไม่เคยถึงขั้นล็อกประตูร้าน เนื่องจากลูกค้าไม่ยอมจ่ายเงิน
ด้านนายธรินทร์ นวลฉวี เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี จึงว่ากล่าวตักเตือนถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมดังกล่าว พร้อมสั่งการให้ นางกานดา หรือเจ้ก้อย เจ้าของกิจการ แก้ไข้ประกาศราคาค่าบริการให้มีความชัดเจนมากที่สุด และดำเนินการขอใบอนุญาตประกอบกิจการต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นเมืองพัทยา ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 ภายใน 7 วัน หากไม่มีการแก้ไขหรือดำเนินการใดๆ จะทำการเปรียบเทียบปรับในราคาไม่เกิน 10,000 บาท และสั่งปิดการชั่วคราวจนกว่าจะมีการแก้ไขปรับปรุงต่อไป.-สำนักข่าวไทย