รัฐเร่งหามาตรการช่วยสตาร์ทอัพ

ศูนย์ฯ สิริกิติ์  17 พ.ค. – รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้การบ้านสภาพัฒน์-บีโอไอ คลอดมาตรการช่วยเหลือสตาร์ทอัพ เปลี่ยนงบประมาณเป็นเงินทุนสนับสนุน ช่วยหาพันธมิตร โดยให้มีความชัดเจนใน 3 เดือน ผลักดันไทยเป็นชาติศูนย์กลางสตาร์ทอัพในภูมิภาค


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มาเปิดงานพร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ “ประเทศไทยกับการเป็น Startup Hub  ของภูมิภาคเอเชีย” กล่าวว่า สตาร์ทอัพของไทยได้ตื่นขึ้นมาแล้วและเป็นอนาคตของประเทศไทย โดยไทยต้องแก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคและข้อจำกัด หน่วยงานสำคัญของภาครัฐต้องช่วยพัฒนาว่าอะไรที่จำเป็นในการสร้างสตาร์ทอัพ โดยให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปรับการสร้างรากฐานทั้งการศึกษา แรงงาน และระบบนิเวศน์สำคัญในการพัฒนาสตาร์ทอัพ ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ต้องคิดยุทธศาสตร์สนับสนุนการทำธุรกิจของสตาร์ทอัพ และส่งให้รัฐบาลภายใน 3 เดือน และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ( ตลท.) ต้องช่วยให้สตาร์ทอัพเข้าจดทะเบียนใน ตลท. เพื่อผลักดันให้สตาร์ทอัพไทยเป็นฮับในภูมิภาค 

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า การเข้าสู่ปีที่ 3 ของงาน STARTUP THAILAND ภายใต้ชื่อ “โอกาสที่ไม่สิ้นสุดของทุกคน – ENDLESS OPPORTUNITIES” สร้างโอกาสให้กับศักยภาพสตาร์ทอัพกว่า 10,000 ราย เป็นสตาร์ทอัพที่มีประสิทธิภาพ  1,500 ราย เม็ดเงินการลงทุน 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 40,000 ล้านบาท พร้อมกันนี้ปีนี้รัฐบาลจะผลักดันการออกพระราชบัญญัติสตาร์ทอัพ พระราชบัญญัติแซนบอกซ์ การปรับแก้กฎหมายให้โครงการของภาครัฐมีการจัดซื้อจัดจ้างสตาร์ทอัพได้ การทำสมาร์ทวีซ่า การจัดซื้อจัดจ้างเชิงวิจัยของภาครัฐ ซึ่งเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่นวัตกรรม 


ทั้งนี้ ภายในงานนอกจากมีการแสดงผลงานของเหล่าสตาร์ทอัพกว่า 400 ผลงาน ทั้งไทยและต่างประเทศ และมีการบรรยายแชร์ประสบการณ์จากวิทยากรชั้นนำของโลกมาพูดคุยเทคโนโลยีสมัยใหม่แล้ว ยังมีการร่วมลงนามระหว่างสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ NIA กับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ เพื่อร่วมกันพัฒนานวัตกรรมยกระดับประเทศไทยเป็นผู้นำไมซ์ในเวทีโลกและการลงนามระหว่าง NIA ธนาคารกสิกรไทย ในโครงการสนับสนุนการสร้างสตาร์ทอัพในสถาบันอุดมศึกษา เตรียมเดินหน้าจัดกิจกรรมเพื่อให้นักศึกษาและบุคลากรในเครือข่ายมหาวิทยาลัยต่อยอดแนวความคิดการสร้างธุรกิจสู่การเป็นสตาร์ทอัพที่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

กต.ย้ำมีแผนพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล-เลบานอน

กต.ประชุมประเมินสถานการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ย้ำมีแผนอพยพพร้อม เผย 5 แรงงานไทยเตรียมเดินทางกลับ แนะประชาชนตัดสินใจก่อนน่านฟ้าปิด

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน

ภาคกลางเริ่มกระทบ น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมบ้านประชาชน

น้ำเจ้าพระยาล้นข้ามถนนเข้าท่วมบ้านกว่า 30 หลังคาเรือน ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ส่วนชุมชุนริมท่าน้ำปากเกร็ด เริ่มกระทบ