ยุทธการ “ชัยยะสยบไพรี 61/5” เด็ดดอกไม้พิษ

เชียงราย 15 พ.ค.- ตร.เปิดยุทธการ “ชัยยะสยบไพรี 61/5” เด็ดดอกไม้พิษ ปราบปรามการฟอกเงินจากการค้ายาเสพติด ในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย จ.เชียงราย พบบัญชีหนึ่งมีเงินหมุนเวียนกว่า 240 ล้าน


พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำตำรวจปราบปรามยาเสพติด  ตำรวจภูธรภาค 5  ทหารกองกำลังผาเมือง ปปส.ภาค 5  ป.ป.ง.  ฝ่ายปกครอง ศุลกากร สรรพากร ร่วมเปิดยุทธการตามแผน ชัยยะสยบไพรี 61/5 เด็ดดอกไม้พิษ เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย ในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ระหว่างวันที่ 14–15 พฤษภาคม เพื่อปราบปรามการฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มนักค้ายาเสพติด โดยเฉพาะการใช้บัญชีตัวแทนทั้งชาวไทยและเมียนมาในภาคเหนือเพื่อซื้อขาย ฟอกเงินและขนเงินจากการค้ายาเสพติด 


โดยปฏิบัติการดังกล่าวมีขึ้นพร้อมกับทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1-15 พ.ค.นี้ ใช้กำลังร่วมกับหน่วยงานต่างๆ รวมกันกว่า 1,500 นาย ตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายรวมกันกว่า 80 เป้าหมาย ในส่วนของพื้นที่ ภ.5 มีจำนวน 17 เป้าหมายโดยที่ อ.แม่สาย เป็นเขตปฏิบัติการสำคัญเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตรวจพบคดีสำคัญโดยเมื่อวันที่ 31 มกราคม2561 ตำรวจ ปส.ได้จับกุม นายณัฐพล นาคคำ พร้อมพวกของกลางยาคีตามีนและไฟว์ไฟว์ และได้ขยายผลจับกุมตัวนายอัครกิตต์ วรโรจน์เจริญเดช ได้อีกคนและตรวจสอบพบมีการโอนเงินค่าซื้อยาเสพติดเข้าบัญชีชาวเมียนมาด้วย 

ต่อมาวันที่ 6 ก.พ.2561 ตำรวจ สภ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง จับกุมนายนิพนธ์ กลิ่นระรื่นและ น.ส.เฉลิมพร กรอนกระโทก พร้อมยาบ้าจำนวน 46,000 เม็ด ยาไอซ์1,570กรัม ก็พบมีการโอนเงินค่าซื้อเข้าบัญชีชาวเมียนมาคนเดียวกันด้วย ตำรวจ ปส.จึงสืบสวนธุรกรรมการเงินจนพบว่ามีนางเพ็ญศรี ก้างออนตา น.ส.ทับทิม ใหญ่ทอง ทำหน้าที่ด้านการเงินให้กับเครือข่ายการค้ายาเสพติดด้วย โดยตรวจพบว่าจากการที่ตำรวจจับกุมตัวนายไพบูลย์ โอสถ นายสิทะพงค์ แซ่ตัน และ น.ส.สุชาดา ขำยินดี พร้อมยาบ้า 60,777 เม็ด ได้ที่ อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมาพบหลักฐานสลิปโอนเงินส่งให้เครือข่ายโดยมี น.ส.ทับทิม เป็นคนทำธุรกรรมเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมาพบหลักฐานสลิปโอนเงินส่งให้เครือข่ายโดยมี น.ส.ทับทิม เป็นคนทำธุรกรรมอีก 


สอบสวนยังพบว่ามีขบวนการร่วมในเครือข่ายในการนำเงินออกนอกประเทศโดยผ่านบัญชีของนางเพ็ญศรีอีกหลายครั้ง นายไส เทน มิน ชาวเมียนมา  ซึ่งถูกจับตัวได้ในเวลาไล่เลี่ยกัน มีหน้าที่ในการรับเงินจากนางเพ็ญศรี ที่ทุกครั้งจะถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มกสิกรไทย สาขาแม่สาย ก่อนจะนำไปให้ทางน.ส.หอมนวล น.ส.ทับทิม และน.ส.เมริกา ลำเลียงข้ามด่านพรมแดนไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา โดยใส่ถุงเป้นักเรียนชาวเมียนมาที่ข้ามมาเรียนหนังสือในฝั่ง อ.แม่สาย นำเงินข้ามไปยังฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ที่อยู่ติดกันเพื่ออำพราง ซึ่งผลการปฏิบัติการตามแผน “ชัยยะสยบไพรี 61/5 เด็ดดอกไม้พิษ” พบว่าสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้นจำนวน 20 คนจากทั้งสิ้น 18 คดี โดยมีผู้ต้องหารายสำคัญ 5 รายคือนางเพ็ญศรี ก้างออนตา น.ส.ทับทิม ใหญ่ทอง  นายไส เทนมิน ชาวเมียนมา น.ส.เมวิกา ชาญอาวุธ และ น.ส.หอมนวล ยอดอ่อน ยึดยาบ้า 6,194,000 เม็ด เฮโรอีน 70 กิโลกรัม ยาไอซ์493 กิโลกรัม ยาอี 18,000 เม็ด ยาอีผง 1 กิโลกรัม คีตามีน 10 กิโลกรัม ใบกระท่อม 50 ใบ ปืน 3 กระบอก วิสามัญขบวนการค้ายาเสพติด 2คน ตรวจยึดทรัพย์สินเป็นรถยนต์ 2 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน บ้านพร้อมที่ดิน 2 หลัง เงินสด 4,275,487 บาท อายัดเงินในบัญชี 5,397,046บาท มือถือ 6 เครื่อง รวมมูลค่าของกลางสิ้น 19,789,533 บาท

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ ปส.และหน่วยงานพิสูจน์หลักฐานจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยังคงปฏิบัติการจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า แผนยุทธการชัยยะสยบไพรี 61/5 เด็ดดอกไม้พิษ เป็นการบูรณาการร่วมกันของกำลังด้านความมั่นคงทุกฝ่ายตามนโยบายของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ซึ่งดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น โดยมีทาง ปส.เป็นหัวเรือใหญ่ในการดำเนินการ โดยแผนปฏิบัติมีส่วนสำคัญในการสกัดกั้นยาเสพติดแม้เส้นทางการเงินจะไม่ได้เข้าไปมีส่วนใหนารค้าโดยตรง แต่ก็มีส่วนเชื่อมโยงการสนับสนุนให้เกิดการค้า ซึ่งเครือข่ายนี้เป็นเครือข่ายใหญ่มีการเปิดบัญชีหลายบัญชี โดยพบบัญชีหนึ่งมีเงินหมุนเวียนกว่า 240 ล้าน และอีกบัญชีมีสูงกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจะให้ทาง ปปง.ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

น้ำปิงล้นตลิ่ง

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน เตรียมรับมือน้ำ หลังน้ำปิงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

เชียงใหม่ 27 ก.ย. – ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย หลังระดับน้ำปิงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดสูงถึง 4.15 เมตร ในคืนนี้ ประเมินเบื้องต้นยังสามารถบริหารจัดการได้ และสั่งทุกหน่วยเตรียมพร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ค่ำวันนี้ (27 ก.ย. 68) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ สำนักงานชลประทานที่ 1 (SWOC1) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมือระดับน้ำในแม่น้ำปิงหลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของจังหวัด ส่งผลให้ให้มวลน้ำจำนวนมากจะไหลลงมาผ่านตัวเมืองที่เป็นย่านเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเวลา 22.00-24.00 น. คืนนี้ ชลประทานเชียงใหม่คาดการณ์ว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 3.9 เมตร เป็น 4.0-4.15 เมตร และจะส่งผลให้น้ำปริ่มและเอ่อล้นตลิ่งเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการสถานการณ์ได้ เนื่องจากมีการเสริมคันกันน้ำทั้งสองฝั่งแม่น้ำปิง ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้สูงถึง 4.2 เมตร สำหรับสถานการณ์ฝนในพื้นที่อำเภอต่างๆ โดยเฉพาะที่อำเภอแม่แตง ทางอำเภอได้รายงานว่าตลอดทั้งวันยังมีฝนตกในพื้นที่ […]

การรถไฟฯ แจ้งน้ำท่วมทำ “ทางรถไฟขาด” สั่งปรับแผนเดินรถ

27 ก.ย. – การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศแจ้งเหตุน้ำท่วมหนัก “ทางรถไฟขาด” ที่บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา สั่งปรับแผนเดินรถ ขณะนี้ได้สั่งการและดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ พร้อมปรับแผนการเดินรถเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ดังนี้ 1.ขบวนรถด่วนที่ 75/76 กรุงเทพอภิวัฒน์ – หนองคาย – กรุงเทพอภิวัฒน์2.ขบวนรถสินค้าที่ 553 มาบตาพุด – บัวใหญ่3.ขบวนรถสินค้าที่ 532 สำราญ – บางละมุงให้เปลี่ยนการเดินขบวนรถในเส้นทางชุมทางแก่งคอย – นครราชสีมา – ชุมทางบัวใหญ่ – หนองคาย 4.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 439 ชุมทางแก่งคอย – ชุมทางบัวใหญ่ เดินถึงสถานีบ้านเหลื่อม5.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 434 ชุมทางบัวใหญ่ – ชุมทางแก่งคอยรอสถานการณ์น้ำที่สถานีชุมทางบัวใหญ่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่สามารถประมาณการเวลาในการเปิดทางได้ เนื่องจากระดับน้ำยังคงท่วมสูงและยังไม่มีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ การรถไฟฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมให้ทราบ เมื่อมีความคืบหน้าในการเปิดเส้นทางเดินรถ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้.-513-สำนักข่าวไทย

กองทัพภาคที่ 2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อุบลราชธานี 27 ก.ย.-กองทัพภาคที่2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำรู้ทันแผนโฆษณาชวนเชื่อต่อนานาชาติ เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 27 ก.ย. 68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 27 ก.ย. ณ เวลา 14.00 น. ว่าสถานการณ์โดยรวมเมื่อเวลา 12.02 น. ฝ่ายกัมพูชาได้พยายามสร้างสถานการณ์ความตึงเครียด ขึ้นอีกครั้งบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามายังพื้นที่ ของฝ่ายไทยจากบริเวณเนิน 677 มายังเนิน 600 และ เนิน 527 พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนเล็กยิงปะทะเป็นระยะ ก่อนที่สถานการณ์จะยุติลง ทั้งนี้ การปะทะจำกัดวงอยู่เฉพาะบริเวณดังกล่าว แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่อย่างใกล้ชิด ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ฝ่ายไทยได้รับแจ้งจากกัมพูชา ว่า คณะสังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ของกัมพูชา จะเดินทางเข้าพื้นที่ช่องอานม้า กองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าเป็นความพยายามของกัมพูชา ในการสร้างเงื่อนไขและยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่คณะ IOT […]

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]