อสมท 14 พ.ค.-สำนักข่าวไทย เจาะข้อมูลกลุ่มก๊วนการเมือง ที่มีนักการเมือง หรืออดีต ส.ส.อยู่ในกลุ่ม ถือว่ามีจำนวนไม่น้อย เชื่อว่าหากรวมกับกลุ่มการเมืองที่หนุน “พล.อ.ประยุทธ์” น่าจะสั่นคลอน 2 พรรคใหญ่ได้พอสมควร
การเลือกตั้งทั่วไปปี 2554 พบว่าจำนวน ส.ส.ที่ชนะการเลือกตั้งทั้งแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อของ 2 พรรคใหญ่มี 395 คน ส่วนที่เหลือประมาณ 100 คน มาจากพรรคขนาดกลางและเล็ก ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองที่มีฐานเสียงมั่นคงในแต่ละพื้นที่ แต่ปัจจัยสำคัญของการเลือกตั้งครั้งถัดไป สัดส่วน ส.ส. รวมถึง ส.ว. ไม่เหมือนเดิม ทำให้โอกาสมีนายกฯ คนนอกเกิดขึ้นได้
จำแนกกลุ่มก๊วนการเมืองที่มีอยู่ ในภาคเหนือตอนบน แม้เป็นฐานเสียงพรรคเพื่อไทย แต่ภาคเหนือตอนล่างมีกลุ่ม “มัชฌิมา” ที่มีอดีต ส.ส.และนักการเมืองประมาณ 10 คน ส่วนภาคกลางพื้นที่สุพรรณบุรี มีกลุ่ม “ศิลปอาชา” มีอดีต ส.ส.ในมือเกือบๆ 20 คน เช่นเดียวกับภาคกลางค่อนไปข้างตะวันตก มีกลุ่ม “สะสมทรัพย์” ที่มีอดีต ส.ส.ในมือ 5-7 คน
ส่วนภาคอีสาน ฐานที่มั่นของพรรคเพื่อไทย มีกลุ่มการเมืองหลัก 2 กลุ่ม ทั้งที่นครราชสีมา คือ กลุ่มชาติพัฒนา มีอดีต ส.ส. 7 คน ส่วนกลุ่มภูมิใจไทยของตระกูล “ชิดชอบ” มีอดีต ส.ส.และนักการเมืองไม่ต่ำกว่า 25 คน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็เพิ่งเดินทางลงพื้นที่
ส่วนภาคตะวันออก ที่ผูกขาดเมืองแปดริ้ว คือ กลุ่มบ้านริมน้ำ มีอดีต ส.ส. 2-3 คน แต่หลักใหญ่ในพื้นที่ชลบุรีของกลุ่ม “พลังชล” ภายใต้กำมือของตระกูล “คุณปลื้ม” ก็มีอดีต ส.ส.และนักการเมืองไม่ต่ำกว่า 7 คน และภาคใต้ แม้ภาพรวมเป็นฐานที่มั่นของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ต้องไม่ลืมเมืองสุราษฎร์ธานี ที่เป็นฐานเสียงของกลุ่ม “กำนันสุเทพ” เบื้องต้นมีอดีต ส.ส.และนักการเมือง 2 คน ยังไม่รวมกับนักการเมืองท้องถิ่นที่อาจแปรสภาพเป็นผู้ลงสมัครตัดคะแนนกับพรรคใหญ่ในอนาคต.-สำนักข่าวไทย




