ทำเนียบฯ 11 พ.ค. – รัฐบาลส่งเสริมคนไทยบริโภคข้าวนุ่ม กข 43 เน้นกลุ่มคนรักษ์สุขภาพ พาณิชย์พร้อมใช้เป็นต้นแบบหนุนสินค้าเกษตรอื่น สนองนโยบายการตลาดนำการผลิต จับมือห้างโมเดิร์นเทรด 4 รายขายกิโลกรัมละ 60 บาท
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การเชื่อมโยงข้าว กข 43 และผลิตภัณฑ์น้ำนมข้าว เพื่อเชื่อมโยงการรับซื้อข้าว กข 43 ระหว่างผู้ประกอบการแปรรูปข้าว 7 ราย การรับซื้อข้าวจากสหกรณ์การเกษตร 8 ราย ปริมาณผลผลิต 1,121 ตันข้าวเปลือก เพื่อนำออกขายผ่านโมเดิร์นเทรด 4 ราย ได้แก่ เทสโก้โลตัส บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เดอะมอลล์ กรุ๊ป และเซ็นทรัลฟูดส์ เพื่อวางจำหน่ายข้าว กข43 โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย 60 บาท/กก. ราคาสูงกว่าข้าวปทุมธานีแต่ไม่สูงกว่าข้าวหอมมะลิ เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นไป พร้อมเดินหน้าประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้แก่ผู้บริโภคในประเทศทุกช่องทาง เพื่อให้บริโภคข้าว กข43 มากขึ้น ผ่านนโยบายการตลาดนำการผลิต เมื่อมีผู้รับซื้อชาวนาจะได้หันมาปลูกมากขึ้น
สำหรับการช่วยเหลือห่วงโซ่อุปทานข้าว กข 43 อย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นทาง (เกษตรกรผู้ปลูกข้าว กข 43 และสหกรณ์การเกษตร) กลางทาง (ผู้ประกอบการแปรรูปข้าว) และปลายทาง (โมเดิร์นเทรด) ทำให้เกษตรกรมั่นใจว่ามีตลาดรับซื้อข้าวแน่นอน รวมทั้งส่งเสริมให้มีการบริโภคข้าว กข 43 และผลิตภัณฑ์น้ำนมข้าวที่ใช้วัตถุดิบของไทยให้กับผู้บริโภคในวงกว้างมากขึ้น หลังจากกรมการข้าวร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศึกษาวิจัยและพบว่ามีค่าการแตกตัวเป็นน้ำตาลน้อย และมีค่าดัชนีน้ำตาลระดับปานกลางค่อนข้างต่ำ คาร์โบไฮเดรตของข้าวมีลักษณะทนต่อการย่อยดีกว่าข้าวอมิโลสต่ำพันธุ์อื่น จึงถือเป็นข้าวทางเลือกของผู้ใส่ใจสุขภาพกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคไต จึงเหมาะกับผู้รักษ์สุขภาพ
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้คัดเลือกสหกรณ์วางแผนการผลิตในระบบนาแปลงใหญ่ปีการผลิต 2561/2562 ผลผลิตรวมประมาณ 50,000 ตันข้าวเปลือก หรือ 20,000 ตันข้าวสาร ด้วยการรับรองบนบรรจุภัณฑ์ ข้าว กข 43 โดยใช้เครื่องหมายรับรองข้าวพันธุ์แท้ เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์และหลักประกันแก่ผู้บริโภคว่าเป็นข้าวที่มีคุณภาพได้การรับรองจากกรมการข้าว โดยให้เมล็ดพันธุ์ไปปลูกโดยกลุ่มชาวนาที่ขึ้นทะเบียนนาแปลงใหญ่กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ภายใต้การดูแลของสหกรณ์ที่เป็นสมาชิก สีแปรโดยสหกรณ์หรือโรงสีข้าวที่ได้รับมาตรฐาน GMP และข้าวสารได้รับการรับรองมาตรฐาน Q สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ โดยระบบ QR Trace เมื่อผู้บริโภคสแกน QR Code จะทราบถึงข้อมูลแหล่งที่มาของข้าวได้ นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการแปรรูปข้าวเป็นผลิตภัณฑ์น้ำนมข้าวที่เป็นเครื่องดื่มสุขภาพ เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่แพ้นมวัวและนมจากพืชตระกูลถั่ว ผ่านกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาแปลงใหญ่ นาอินทรีย์ ผู้ผลิตแปรรูป ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มทำนาประณีตข้าวอินทรีย์ศรีสำราญ และผู้ประกอบการแปรรูปผลิตภัณฑ์น้ำนมข้าวให้เป็นเครื่องดื่มสุขภาพ
“เมื่อส่งเสริมการบริโภคข้าว กข 43 ในประเทศจนได้รับความนิยม และพัฒนาพันธุ์ข้าวเพียงพอต่อการขยายการเพาะปลูก พร้อมส่งเสริมการส่งออกไปต่างประเทศตามกระแสการรักษ์สุขภาพ และพร้อมขยายการช่วยเหลือแบบห่วงโซ่ครบวงจรไปยังสินค้าอื่น” นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ กล่าว
ทั้งนี้ เทสโก้ โลตัสรับซื้อข้าวปริมาณ 150,000 กก. บรรจุถุงละ 1 กก. จำหน่ายถุงละ 60 บาท และยังช่วยสนับสนุนชาวนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยการรับซื้อข้าวหอมมะลิโดยตรงจากสหกรณ์การเกษตรช่วยให้ชาวนาไม่ต้องขายข้าวผ่านคนกลางหรือโรงสีเอกชน ได้ราคาข้าวที่เป็นธรรมและมีปริมาณการรับซื้อที่แน่นอน โดยมีการวางแผนการผลิตล่วงหน้าร่วมกัน ขณะที่บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ รับซื้อข้าวปริมาณ 175,000 กิโลกรัม .-สำนักข่าวไทย