มธ.จัดเสวนา “อภิวัฒน์สยาม 2562

ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ 11 พ.ค.- มธ.จัดเสวนา “อภิวัฒน์สยาม 2562 : ความหวังและอนาคตประเทศไทย”  นักการเมือง ระบุ หากได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะยกเลิก รธน.60 แล้วร่างใหม่ ยืนยัน ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี


มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดเสวนาเรื่อง “อภิวัฒน์สยาม 2562 : ความหวังและอนาคตประเทศไทย” โดยมีตัวแทนพรรคการเมือง ได้แก่ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล จากพรรคเพื่อไทย น.ส.รัชดา ธนาดิเรก จากพรรคประชาธิปัตย์ นายวราวุธ ศิลปอาชา พรรคชาติไทยพัฒนา และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ร่วมอภิปราย

นายวราวุธ กล่าวว่า การเลือกตั้งในปี 2562 เป็นเรื่องสำคัญ ส่วนตัวมองว่า ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ 2560 หลังการเลือกตั้ง จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้เพียงบางส่วน ปัญหาต่าง ๆ ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการเลือกตั้งเพียงครั้งเดียว แต่ก็ถือว่า การเลือกตั้งในปี 2562 จะทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในประเทศไทยได้ ดังนั้น คนไทยควรออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง แม้ส่วนตัวจะไม่เชื่อว่า จะเปลี่ยนแปลงได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นในการไปสู่การเลือกตั้งครั้งต่อไป


น.ส.รัชดา กล่าวว่า เมื่อมีการเลือกตั้ง สิ่งดี ๆ ก็จะตามมา แต่สิ่งดี ๆ จะต้องมาภายใต้เงื่อนไข 2 ประการ คือ ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งต้องมาจากประชาชนอย่างแท้จริง และประชาชนต้องรู้เท่าทันนโยบายของพรรคการเมือง แม้ว่าเวลานี้ คสช.จะห้ามดำเนินกิจกรรมทางการเมือง แต่ก็ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่ประชาชนจะศึกษาเรื่องการเมือง  หลังการเลือกตั้ง ทุกคนต้องช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจประชาธิปไตย ไม่มีการผูกขาด สังคมมีความเสมอภาค

น.ส.ขัตติยา กล่าวว่า มีความหวังว่าการเลือกตั้งปีหน้าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของประเทศ จะเป็นการเลือกตั้งของคนรุ่นใหม่กว่า 8 ล้านคนในประเทศ เชื่อว่าคนรุ่นใหม่อยากเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง และไม่ใช่แค่เพียงคนรุ่นใหม่เท่านั้น แต่คนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งอยู่แล้ว ก็ต้องการเข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศเช่นกัน เพราะที่ผ่านมาประเทศบอบช้ำมามากแล้ว การรัฐประหารไม่ได้ทำให้ประเทศดีขึ้น แต่ควรทำให้กลับเข้าสู่ประชาธิปไตยเหมือนเดิม ระบอบประชาธิปไตยอาจไม่ได้ดีที่สุด แต่สวยงามที่สุด ส่วนตัวอยากเห็นว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า จะไม่มีอำนาจนอกระบบ

นายธนาธร กล่าวว่า หากการเลือกตั้งเกิดขึ้นจริงในปี 2562 ควรนำสิ่งที่การอภิวัฒน์ในปี 2475 ทำไม่สำเร็จมาทำให้เกิดผลสำเร็จ นั่นก็คือ อำนาจสูงสุดของประเทศจะต้องเป็นของประชาชน


จากนั้น เวทีเสวนาได้อภิปรายถึงเรื่องความเหลื่อมล้ำ ซึ่งนายวราวุธ กล่าวว่า การเข้าถึงโอกาสในประเทศไทยยังมีความไม่เท่าเทียมกันอยู่ ทั้งการศึกษา การรักษาพยาบาล การเก็บภาษี เชื่อว่า ปัญหาดังกล่าว ไม่สามารถแก้ไขได้ภายใน 1-2 รัฐบาล แต่ต้องค่อย ๆ แก้ไข

ด้านนางรัชดา กล่าวว่า ทุกครั้งที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เข้ามาบริหารประเทศ มักจะเป็นช่วงที่ต้องฟื้นฟูประเทศในยุคที่สถานการณ์บ้านเมืองวิกฤติและวุ่นวาย ดังนั้น การบริหารประเทศจึงต่างจากรัฐบาลอื่น ทั้งนี้ มองว่า การลดความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจ ต้องส่งเสริมให้เกษตรกรมีความเข้มแข็ง และหัวใจสำคัญของการลดความเหลื่อมล้ำคือ การศึกษา ที่ยังดีไม่มากพอจะรองรับเยาวชนจำนวนมาก ดังนั้น ต้องแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาด้วยการกระจายอำนาจให้โรงเรียนในแต่ละพื้นที่มีอำนาจในการออกแบบหลักสูตร มีอำนาจคัดสรรผู้อำนวยการและครูที่ดีที่สอนให้เยาวชนมีทักษะด้านต่างๆ ทุกคนในจังหวัดต้องมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของโรงเรียน

น.ส.ขัตติยา กล่าวว่า หากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเข้าถึงท้องถิ่น จะทำให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้น และทำให้คนต่างจังหวัดรู้สึกถึงความเท่าเทียมกัน ตลอดจนทำให้ความเหลื่อมล้ำลดลง ฐานภาษีใหญ่ขึ้นเพราะคนมีรายได้มากขึ้น และสามารถนำเงินภาษีไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เช่นเดียวกับ นายธนาธร ที่เห็นด้วยกับการกระจายอำนาจให้เข้าถึงประชาชนและท้องถิ่น เปิดโอกาสให้ทุกคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ได้นำทรัพยากรของประเทศไปใช้ พลังพัฒนาเศรษฐกิจจะถูกปลดปล่อย เพราะตนไม่เชื่อว่าคนต่างจังหวัดโง่หรือไม่มีศักยภาพในการพัฒนา แต่เพราะไม่มีอำนาจในการกำหนดอนาคต

ต่อมาเวทีการเสวนาได้เปิดให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นว่า หากผู้อภิปรายมีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะทำอย่างไรนายวราวุธ กล่าวว่า ประเทศไทยจะก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง คือ กฎกติกาในการบริหารประเทศ การมีรัฐธรรมนูญที่มาจากทุกภาคส่วน ดังนั้น ตนอยากตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.)ใหม่

น.ส.รัชดา กล่าวว่า หากตนเป็นนายกรัฐมนตรี จะกระจายอำนาจให้ครอบคลุมทุกเรื่อง โดยเฉพาะการปฏิรูปตำรวจ ที่ต้องกระจายอำนาจจากตำรวจที่อยู่ศูนย์กลางไปสู่ภูธร รวมถึงต้องกระจายอำนาจด้านการศึกษา สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชน พัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการในพื้นที่ ตลอดจนกระจายอำนาจการปกครอง โดยผลักดันให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ที่มาจากการเลือกของประชาชนในจังหวัดโดยตรง

น.ส.ขัตติยา กล่าวว่า สิ่งที่ตนจะทำสิ่งแรกคือ การแก้รัฐธรรมนูญ โดยอาจต้องทำประชามติเพื่อนำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาใช้ จากนั้น มาร่างรัฐธรรมนูญกันใหม่แล้วทำประชามติอีกครั้ง เพราะรัฐธรรมนูญต้องไปข้างหน้า โดยให้คนรุ่นใหม่มีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญ สำหรับยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ส่วนตัวมองว่า ไม่จำเป็น เพราะไม่สามารถวางกรอบประเทศไทยได้ว่าอีก 20 ปีจะเป็นอย่างไร และการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

เช่นเดียวกับ นายธนาธร ที่เห็นด้วยว่าควรยกเลิกการบังคับใช้รัฐธรรมนูญปี 2560 เพราะอำนาจการสถาปนารัฐธรรมนูญเป็นของประชาชน มี สสร.ที่มาจากประชาชน และต้องนำสิ่งที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยออกไปจากรัฐธรรมนูญ 2560

จากนั้น ผู้ร่วมอภิปรายได้กล่าวถึงการแก้ปัญหาด้านการศึกษา โดยนายวราวุธ กล่าวว่า ควรปรับเปลี่ยนแนวทางการสอน เพิ่มวิชาทางเลือก ให้ความสำคัญทั้งการเรียนในห้องเรียนและนอกห้องเรียน

น.ส.รัชดา ย้ำว่า ต้องกระจายอำนาจการศึกษาไปสู่ท้องถิ่น ทำให้ทุกคนในท้องถิ่นรวมทั้งผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมในการศึกษา สนับสนุนการศึกษาสายอาชีวะมากขึ้น

น.ส.ขัตติยา กล่าวว่า สนับสนุนให้คนทุกเพศทุกวัยเข้าถึงการศึกษา ยกระดับการศึกษาอาชีวะให้เป็นระดับมหาวิทยาลัย เพื่อให้ได้รับใบปริญญาตรี ไม่ใช่เพียงแค่ประกาศนียบัตร เพื่อทำให้ผู้ที่จบการศึกษาอาชีวะไม่ด้อยค่ากว่าผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี เช่นเดียวกับ นายธนาธร ที่เห็นด้วยกับการกระจายอำนาจการศึกษาให้กับท้องถิ่น ให้ท้องถิ่นสามารถจัดการในเรื่องการศึกษาได้

ส่วนข้อเสนอที่อยากให้มีการเปิดบ่อนเสรีในประเทศไทย ผู้อภิปรายมีความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า สามารถเปิดได้ แต่ต้องควบคุมเข้มงวด เพราะการพนันยังถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่นายธนาธร กลับเห็นต่างว่า การเปิดบ่อนเสรีไม่ควรเป็นนโยบายของรัฐบาล แต่ควรเป็นอำนาจการตัดสินใจของแต่ละจังหวัด ซึ่งการตัดสินใจว่าจะเปิดบ่อนหรือไม่ ควรเป็นไปตามหลักนิติรัฐ และประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมได้

ทั้งนี้ ในช่วงท้าย เวทีเสวนาได้เปิดให้ผู้ฟังร่วมซักถาม ซึ่งมีประเด็นเรื่องการทำให้คนรุ่นใหม่ตื่นตัวด้านการเมือง การดูดตัวนักการเมือง การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง และการสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง

นายวราวุธ กล่าวว่า ปัจจุบันไม่จำเป็นต้องปลุกระดมนักศึกษาหรือคนรุ่นใหม่ให้ตื่นตัวทางด้านการเมือง ส่วนเรื่องการดูดตัวนักการเมืองนั้น นายวราวุธ กล่าวว่า ให้ดินกลบหน้าตนก่อน ตนจึงจะลาออกจากพรรคชาติไทยพัฒนา และพล.อ.ประยุทธ์ ต้องกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีตามระบบเท่านั้น จึงจะสนับสนุน

ด้านน.ส.ขัตติยา กล่าวว่า ตนคงไม่ถูกดูดจากพรรคการเมืองใด เพราะมีอุดมการณ์ที่ชัดเจน พร้อมมองว่า คนที่ถูกดูด ถือว่า เป็นคนที่ดูถูกประชาชน เพราะไม่มีความมั่นคงในอุดมการณ์ของตนเอง พร้อมปฏิเสธว่า ไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะไม่สนับสนุนเผด็จการ

เช่นเดียวกับ นายธนาธร เห็นด้วยกับน.ส.ขัตติยาว่า นักการเมืองที่ถูกดูดคือผู้ที่ทรยศประชาชน และทรยศกับจรรยาบรรณวิชาชีพ และเห็นว่า ต้องเลิกทำให้การเมืองเป็นเรื่องน่ากลัว สามารถพูดคุยความเห็นต่างได้ ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งนั้น ตนมองว่า การเลือกตั้งปี 2562 อาจจะยังไม่เกิดขึ้น ดังนั้น การแสดงออกของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งจึงเป็นสิ่งสำคัญ ทุกคนอย่ากลัวและต้องกล้าที่จะแสดงออกเพื่ออภิวัฒน์สังคมได้อีกครั้งหนึ่ง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รวบ ผอ.กองช่าง เรียกรับสินบน แลกใบอนุญาตถมดิน-สร้างหอพัก

ปทุมธานี 11 ก.ย. – หลักฐานคาโต๊ะ! ป.ป.ช. สนธิกำลังตำรวจ บุกจับ ผอ.กองช่างเทศบาลหลักหก จ.ปทุมธานี คาห้องทำงาน พร้อมเงินสดของกลาง 1.9 แสนบาท หลังเรียกรับสินบน แลกใบอนุญาตถมดิน-สร้างหอพัก 8 ชั้น ด้านเจ้าตัวปฏิเสธ อ้างผู้เสียหายนำมาให้เอง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ภาค 1 นำโดย น.ส.ชฎารัตน์ อนรรฆอร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 1 วางแผนร่วมกับชุดสืบสวนสำนักงาน ป.ป.ช. และตำรวจสืบสวนภูธรภาค นำหมายศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 เข้าตรวจค้น พร้อมจับกุมนายวีระเชษฐ์ อายุ 59 ปี ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก จ.ปทุมธานี ภายในห้องทำงาน เทศบาลตำบลหลักหก หลังมีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากผู้ขออนุญาตถมดินและขออนุญาตก่อสร้างอาคาร พร้อมตรวจยึดเงินของกลาง ซุกซ่อนอยู่ที่พื้นใต้ลิ้นชักโต๊ะทำงาน 190,000 บาท เบื้องต้นจากการตรวจหมายเลขธนบัตร ตรงกับสำเนาธนบัตรที่ผู้เสียหายนำไปมอบให้กับนายวีระเชษฐ์ ก่อนหน้านี้ และเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายสำเนาและลงรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีไว้เป็นหลักฐาน […]

ปิดล้อมไล่ล่าผู้ก่อเหตุ หลังปะทะเดือดสะบ้าย้อย 2 ระลอก

สงขลา 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง วางกำลังปิดล้อมพื้นที่บ้านห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบ หลังเหตุปะทะเดือด 2 ระลอก พบผู้ก่อเหตุมีหมายจับคดีความมั่นคง หลังเหตุปะทะเดือด 2 ระลอก ระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มก่อความไม่สงบ ในพื้นที่บ้านห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ วางกำลังบนถนนเส้นทางเข้าออกพื้นที่ปะทะ ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าเขตปะทะอย่างเด็ดขาด เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่นิ่ง ยังคงมีการปิดล้อมบริเวณเนินเขา เพื่อไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบรอยเลือดและกระเป๋าเป้ถูกทิ้งไว้บนเนินเขา บริเวณจุดปะทะ คาดว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะได้รับบาดเจ็บด้วย สำหรับกลุ่มคนร้ายที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นมีข้อมูลว่า เป็นกลุ่มของนายกอเซ็ง ลาเตะยามา อายุ 35 ปี ชาว อ.ยะหา จ.ยะลา ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ซึ่งมีหมายจับ 7 หมาย และนายฮุสนี ยีกะเส็ม อายุ 34 ปี ชาว อ.เทพา จ.สงขลา มีหมายจับ […]

กักสิงโตสวนสัตว์ดัง-ปรับพฤติกรรม

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สั่งกักสิงโตสวนสัตว์ดัง เพื่อปรับพฤติกรรม แยกเพศ-เฝ้าสังเกตใกล้ชิด เจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่สวนสัตว์ดัง ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์เสียชีวิต โดยได้สั่งการให้กักสิงโตทั้งหมดในฝูงที่ก่อเหตุไว้ในกรงชั่วคราว แยกสิงโตเพศผู้และเพศเมีย เพื่อเฝ้าสังเกตพฤติกรรมในระยะใกล้ สำหรับสิงโตที่เข้าตะปบเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิต เป็นตัวผู้ โดยสิงโตร่วมฝูงมี 7 ตัว แต่ที่เข้ารุมกัดเจ้าหน้าที่มี 5 ตัว ได้แก่ 1) ทรัมป์ (เพศผู้) ตัวตะปบ 2) ไบท์ (เพศผู้) ตัวตาม 3) อ้อน (เพศเมีย) ตัวตาม 4) อ้าย (เพศเมีย) ตัวตาม 5) ยาว (เพศเมีย) ตัวตาม ทั้งนี้ สิงโตทุกตัวอายุประมาณ 10 ปี พร้อมกันนี้ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กำลังตรวจสอบมาตรการความปลอดภัย และจะไม่อนุญาตให้เปิดส่วนจัดแสดงสัตว์ดุร้าย […]

เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้า

เชียงใหม่ 11 ก.ย. – เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้าล้ม ถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ชาวบ้านกังวล หลังทราบว่าประกันรถกระบะคันต้นเหตุ คุ้มครองความเสียหายแค่ 600,000 บาท วอนการไฟฟ้า หรือ อบต.ช้างเผือก ยื่นมือช่วยเหลือ ตลอดช่วงเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยังคงระดมกำลังฟื้นฟูระบบไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ โดยขุดหลุมติดตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงและแรงต่ำทดแทนต้นเดิมที่ล้มเสียหายจากอุบัติเหตุ ตลอดเส้นทางเป็นระยะทาง 595 เมตร พร้อมเก็บซากอุปกรณ์ตามร้านค้าและบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย คาดว่าจะใช้เวลาอีก 3 วันจะดำเนินการแล้วเสร็จ ขณะที่ระบบไฟฟ้าถูกแก้ไขจนสามารถจ่ายไฟได้ครบทุกหลังคาเรือนแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่าที่ร้อยตรี ปรีชาพล ปาละโมงค์ หนึ่งในเจ้าของร้านที่ได้รับความเสียหาย บอกว่า ช่างมาประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหลังคาและโครงสร้าง ประมาณ 150,000 บาท แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการชดใช้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้ยังเปิดร้านไม่ได้ ขาดรายได้ แถมยังมีค่าใช้จ่ายอีกมาก และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อแสดงความรับผิดชอบจากนายจ้างของกระบะส่งน้ำ ตอนนี้ทุกคนกังวลมาก เพราะทราบว่าประกันรถที่เกิดอุบัติเหตุคุ้มครองความเสียหายเพียง 600,000 บาท ไม่เพียงพอกับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน จึงทยอยเข้าแจ้งความกันไว้แล้ว ขอเรียกร้องให้ทางการไฟฟ้า หรือ […]