กทม.11พ.ค.-แพทย์เผยปัญหาลูกไม่ยอมไปโรงเรียน เป็นเรื่องพบเจอได้บ่อย แนะพ่อแม่ไม่ต้องกังวล รับมืออย่างใจเย็น อยู่ใกล้ชิดและให้กำลังใจ
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)เปิดเผยว่า ขณะนี้เข้าสู่ช่วงเวลาของการเปิดเทอม เด็กๆ ต้องเปลี่ยนการดำเนินชีวิตจากที่เคยนอนดึกตื่นสาย ไปเที่ยวกับครอบครัว ทำกิจกรรมกับพ่อแม่และเพื่อนๆ กลายเป็นต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปโรงเรียน เรียนหนังสือ และมีการบ้านกลับมาทำที่บ้าน จะรู้สึกขี้เกียจ งอแงไม่อยากไปโรงเรียน ซึ่งปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องปกติในเด็กเกือบทุกคนที่เริ่มไปโรงเรียนใหม่ ๆ พบในช่วงอายุประมาณ 3-4 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่เด็กมีความกังวลกับการแยกจากพ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดู
สำหรับเด็กในวัยเรียนที่มีปัญหาการเรียนเข้ากับเพื่อนไม่ได้ หรือถูกทำโทษรุนแรงที่โรงเรียน บางคนแสดงออกโดยร้องไห้ บางคนสะสมความเครียดจนทำให้ตัวเองเจ็บป่วย เช่น ปวดหัว ปวดท้อง ปวดแขน ปวดขา ซึ่งเป็นกลไกการต่อต้านทางร่างกาย พ่อแม่ควรเปิดใจกว้าง รับฟังความรู้สึก ต้องเข้าใจและค่อยๆ สอนลูกอย่างใจเย็น พร้อมหาทางแก้ไข
นพ.สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กล่าวว่า จากปัญหาดังกล่าวพ่อแม่ควรรับมือแก้ไขปัญหาอย่างมีสติ ปรับเปลี่ยนการเลี้ยงดู สอนให้ช่วยเหลือตนเองและช่วยงานบ้าน โดยที่พ่อแม่อยู่ใกล้ชิด คอยให้กำลังใจ นอกจากนี้ควรฝึกทักษะพื้นฐานด้านการเล่นและการอยู่ร่วมกับผู้อื่น และควรให้ไปโรงเรียนทุกวันโดยไม่จำเป็นต้องหยุด และขอความช่วยเหลือจากครูให้รับเด็กภายหลังจากพ่อแม่มาส่งเพื่อทำให้ระยะเวลาการแยกจากที่โรงเรียนสั้นที่สุด ผู้ปกครองไม่ควรตำหนิเด็ก หากอืดอาดชักช้า ถ้าไม่ยอมอาบน้ำ หรือไม่รับประทานอาหารเช้า ควรจัดใส่กล่องให้และยังคงบอกว่าต้องไปโรงเรียน ขณะเดินทางควรพูดเรื่องสนุกๆ ที่วางแผนทำในช่วงเย็นหลังเลิกเรียน และควรมารับตรงเวลา หากปฏิบัติตามวิธีดังกล่าวแล้วไม่ได้ผลควรปรึกษาจิตแพทย์เด็ก เพื่อช่วยดูแลให้เด็กปรับตัวไปโรงเรียนได้อย่างมีความสุขต่อไป.-สำนักข่าวไทย