กรุงเทพฯ 9 พ.ค. – บีโอไอเผยแนวโน้มการยื่นโครงการขอรับส่งเสริมการลงทุนยังดีต่อเนื่อง ไตรมาสแรกกว่า 200,000 ล้านบาท โตถึงร้อยละ 247 ตลอดปีนี้เชื่อได้ตามเป้า 720,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นยอดยื่นขอส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซี 300,000 ล้านบาท
นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ว่า ภาพรวมแนวโน้มการลงทุนดีต่อเนื่อง ผลสืบเนื่องจากเศรษฐกิจของไทยเติบโตดี สังเกตได้จากการขยายตัวของจีดีพีที่เป็นบวกต่อเนื่อง การส่งออกขยายตัว การใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ไตรมาสแรกปีนี้มียอดโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนรวม 366 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 205,140 ล้านบาท จำนวนโครงการเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 247 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาที่มี 288 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 59,110 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในจำนวนโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนไตรมาสแรกปีนี้ 66 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 160,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 81 ของมูลค่าโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนในภาพรวมของไตรมาสแรกเป็นโครงการที่จะลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาพื้่นที่อีอีซี มีการยื่นโครงการขอรับส่งเสริมการลงทุน 59 โครงการ มูลค่า 12,000 ล้านบาท จนถึงสิ้นปีนี้คาดว่าจะมียอดขอรับส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซี รวม 300,000 ล้านบาท เทียบกับตลอดปี 2560 ที่มียอดรวม 290,000 ล้านบาท
นางสาวดวงใจ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังมั่นใจว่าแนวโน้มการลงทุนจะดีต่อเนื่องจนถึงสิ้นปีนี้ จึงมั่นใจว่าตลอดปีนี้จะมียอดโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนคิดเป็นมูลค่ารวม 720,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่ยอดโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงุทนรวม 640,000 ล้านบาท
ส่วนการยื่นโครงการขอรับส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ 20 จังหวัดที่มีรายได้ต่ำสุดของประเทศ ไตรมาสแรกปีนี้มียอดรวม 9 โครงการ มูลค่ารวม 1,070 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดเล็กอุตสาหกรรมขนาดเบา ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมามียอดโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนรวม 6 โครงการมูลค่ารวม 3,620 ล้านบาท ทั้งนี้ บีโอไอไม่ได้ตั้งเป้าหมายการลงทุนในพื้นที่ 20 จังหวัดยากจน เนื่องจากประเมินค่อนข้างยาก โดยตากเป็นจังหวัดที่มีโครงการเข้าไปลงทุนมากที่สุดส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม.- สำนักข่าวไทย