ห่วงสารเสพติดตัวใหม่เสพถึงตาย เข้ามาระบาดในเอเชีย

กรุงเทพฯ 7 พ.ค.-คกก.ควบคุมยาเสพติดสากล ห่วงลักลอบนำเข้า ‘คาเฟนทานีล’สารสังเคราะห์ตัวใหม่ระบาดหนักในยุโรป หวั่นลามเข้าเอเชีย ผ่านการซื้อขายด้วยระบบเงินดิจิทัล-ขนส่งทางอากาศ ตรวจสอบยาก  


นายวิโรจน์ สุ่มใหญ่ ประธานคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดระหว่างประเทศแห่งสหประชาติ (President of the International Narcotics Control Board (INCB) เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มประเทศยุโรปไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ เม็กซิโก อาร์เจนตินา แคนาดา รวมทั้งทวีปเอเชียกำลังประสบกับปัญหาสารสังเคราะห์ตัวใหม่ล่าสุดคือ สารคาเฟนทานีล( Carphentanyl) มีลักษณะเป็นผงสีขาว คล้ายกับแป้ง โดยแก๊งค้ายาเสพติดจะนำสารสังเคราะห์ดังกล่าวไปผสมกับเฮโรอีน     เพื่อขายในราคาที่สูงขึ้น ทั้งๆที่สารดังกล่าวหากนำไปผสมกับเฮโรอีน แล้วจะนำให้มีฤทธิ์รุนแรงทำให้ผู้เสพเสียชีวิตทันที ยังไม่มียาเฉพาะที่ใช้รักษา กรณีที่ผู้เสพมีอาการต้องรักษาตามอาการที่แสดงออกมา ต่างจากอาการลงแดงจากการเสพเฮโรอีนที่ยังทำการรักษาได้ทั้งนี้เมื่อปี 2560 มีรายงานว่า ในสหรัฐอเมริกามีผู้เสียชีวิตจากการเสพยาที่มีส่วนผสมของสารคาเฟนทานีล Carpentanyl ประมาณ 10,000 คนจนทำให้กระทรวงสาธารณสุขของอเมริกาต้องประกาศภาวะวิกฤติ 


นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของทวีปเอเชียยังมีปัญหาเรื่องเมทแอมเฟตามีน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังต้องจับตาเป็นพิเศษเช่นกัน เนื่องจากเป็นตัวยาเสพติดที่ได้จากสารตั้งต้น ซึ่งถูกลักลอบนำเข้ามาจากกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม ส่วนสารคาเฟนทานีล อยู่ระหว่างการเฝ้าระวังว่ามีการลักลอบนำเข้ามา แล้วหรือไม่เพราะปัจจุบันการสั่งซื้อจะทำกันอยู่ในกลุ่มตลาดมืด เป็นการซื้อขายผ่านทางออนไลน์ผ่าน ‘Dark Web’ มีการใช้ชื่อแฝง และใช้ระบบ DHLหรือการขนส่งไปรษณีย์เอกชน มีการซื้อขายโดยใช้บิทคอยส์และสกุลเงินดิจิทัล ทำให้ตรวจสอบได้ยาก 


อย่างไรก็ตามคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดระหว่างประเทศ ได้มีการทำบันทึกข้อตกลงในหลายประเทศกับองค์กรไปรษณีย์ระหว่างประเทศเพื่อขอให้ตรวจสอบตั้งแต่ประเทศต้นทางที่มีการลักลอบนำเข้ามา โดยใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์พร้อมเจ้าหน้าที่จากองค์การอาหารและยา(อย.)ทำการตรวจสอบวัสดุต้องสงสัย

“สำหรับคาเฟนทานีลเป็นสารเคมีที่อันตรายมากสามารถซึมผ่านทางผิวหนังได้ จึงจำเป็นต้องมีอุปกรณ์การป้องกันที่รัดกุมหากซึมผ่านผิวหนังเข้าไปจะทำให้หยุดหายใจทันที ในต่างประเทศถือว่าเป็นปัญหาที่น่าวิตก เพราะยังพบว่าที่มีการลักลอบนำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนประเทศไทยก็น่าห่วงเช่นกันเนื่องจากยาสังเคราะห์ประเภทนี้มีฤทธิ์รุนแรงมากกว่าโคเคนและเฮโรอีนมาก หากมีการลักลอบนำเข้ามา”นายวิโรจน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

“เด็ก-เยาวชน” ส่ง ส.ค.ส.อวยพร “ปีใหม่-วันเด็ก” ให้นายกฯ

“เด็ก-เยาวชน” ส่ง ส.ค.ส.อวยพรปีใหม่ 2568 – วันเด็ก ให้ “นายกฯ พี่อิ๊งค์” มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง อยู่คู่ตึกไทยคู่ฟ้า บริหารประเทศไปนานๆ พร้อมฝากความคิดถึง “อดีตนายกฯ ทักษิณ”

16 บอสดิไอคอน แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.

16 บอส ดิไอคอนกรุ๊ป แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.นี้ ขณะที่ “ทนายวิฑูรย์” เผย “บอสพอล-บอสกันต์” ดีใจ หลัง “แซม-มิน” ได้ปล่อยตัว ส่วนท่าทีทั้งคู่ดูสบายๆ ปกติ ล่าสุดมีรายงาน “บอสวิน” ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว อยู่ระหว่างรอผล

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน รวมถึงดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารและการติดต่อรับศพนายลิม ที่แผนกนิติเวช รพ.วชิรพยาบาล

บอสแซมมิน

ยังไม่จบ! “แซม-มิน” ลุ้น DSI เห็นแย้งอัยการหรือไม่

แม้อัยการสั่งไม่ฟ้อง “บอสแซม-บอสมิน” แต่ดีเอสไอย้ำชัด คดียังไม่จบ มีเวลาอีก 30 วัน พิจารณาสำนวนที่ถูกตีกลับว่าจะเห็นแย้งคำสั่งหรือไม่ ส่วนประเด็น “บอสมิน” ไม่ถูกตัดผมขณะถูกคุมขัง ราชทัณฑ์มีคำตอบให้แล้ว