“วัฒนา” ขอควาเมป็นธรรมถูกกล่าวหาทุจริตบ้านเอื้ออาทร

เพื่อไทย 7 พ.ค.- “วัฒนา” เรียกร้องความเป็นธรรม กรณี ป.ป.ช. กล่าวหาทุจริตบ้านเอื้ออาทร  หลังผ่านมา 12 ปี  เชื่อ เป็นเรื่องทางการเมือง  ยืนยัน พร้อมเข้าพบอัยการสูงสุด ก่อนส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 9 พ.ค.นี้


นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แถลง กรณีที่อัยการสูงสุดเตรียมนำตัวส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วันที่ 9 พฤษภาคมนี้ หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร กล่าวหาเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการเอกชน ให้ได้โควต้าเป็นคู่สัญญาจัดซื้อจัดจ้างโครงการบ้านเอื้ออาทรกับการเคหะแห่งชาติ 7 โครงการ 7,500 ยูนิต มูลค่า 2,500 ล้านบาท ในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

นายวัฒนา กล่าวว่า การดำเนินโครงการดังกล่าว เกิดจากเหตุขาดผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ ซึ่งเมื่อตนได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี เมื่อเดือนสิงหาคม 2548 จึงได้นำเสนอให้คณะกรรมการแก้ไขปรับปรุงทีโออาร์ใหม่ โดยยืนยันว่าไม่มีผลกระทบและเกิดความเสียหายต่องบประมาณ แต่หลังเกิดรัฐประหาร มีการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน (คตส.) โดยนายแก้วสรร อติโพธิ เป็นผู้รับผิดชอบ จากนั้น มีการตั้งข้อกล่าวหาตน ว่ามีการออกทีโออาร์ และมีการเรียกรับผลประโยชน์ รวมถึง รับผลประโยชน์ รวม 3 ข้อหา โดยส่งสำนวนให้ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวน และส่งสำนวนคืนให้อัยการ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน  2559 และเพิ่งชี้มูลสั่งฟ้องในปัจจุบัน รวมเป็นเวลา 12 ปี


“ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า คดีนี้พบข้อพิรุธมากมาย ทั้งที่จริงๆ คดีไม่มีความซับซ้อน แต่กลับถูกนำไปดองที่ ป.ป.ช. เป็นเวลา 12 ปีเต็ม เหตุที่เป็นแบบนั้นเพราะจริงๆ ไม่มีพยานหลักฐาน  หากมีคงฟ้องไปนานแล้ว ไม่ใช่เพราะเกิดจากความเมตตาของใคร   คดีนี้ยาวนานเกินไป และคดีของผมไม่เหมือนกับคดีอื่น คือไม่มีการแถลงข่าวลงเว็บ เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบ  ถือว่าเป็นการส่งสำนวนแบบเงียบๆ  ทั้งที่คดีนี้ฟ้องผมในข้อกล่าวหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148  มีโทษสูงสุดคือประหารชีวิต แต่ผู้ฟ้องกลับกลัวที่จะถูกผู้ถูกฟ้องร้องขอความเป็นธรรม จึงทำให้พบข้อพิรุธของคดีมีมากมาย  เป็นการกล่าวหาสวนทางกับข้อเท็จจริง” นายวัฒนา กล่าว

นายวัฒนา กล่าวว่า สำหรับทีโออาร์ที่มีการแก้ไขปรับปรุงในสมัยตนปัจจุบันฉบับนี้ยังใช้อยู่ และที่ผ่านมาไม่พบความเสียหายใดๆ เกิดขึ้น เพราะไม่มีคำสั่งทางปกครองเรียกค่าเสียหายมาที่ตน และการเรียกรับผลประโยชน์จะมีจริงหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่การรับผลประโยชน์คงไม่มีใครให้ฟรีๆ ทุกอย่างต้องมีผลประโยชน์เอื้อกัน คนที่รู้ดีคือผู้ว่าฯ และบอร์ด แต่ในที่สุดแล้ว เรื่องนี้ไม่มีใครโดนข้อกล่าวหา นอกจากตนเพียงคนเดียว

นายวัฒนา ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นความจงใจที่จะมุ่งเอาผิดตนคนเดียว เพราะผู้ที่เกี่ยวข้องคนอื่นๆ ไม่ถูกชี้มูลความผิด จึงมองได้ว่ามีมูลเหตุทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องจากการรัฐประหาร แต่ตนพร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยเบื้องต้นยืนยันที่จะเข้าพบกับอัยการสูงสุด เพื่อนำตัวส่งฟ้องในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ ส่วนหลักทรัพย์เพื่อประกันตัว ยังไม่กำหนดไว้ ต้องรอทางศาลกำหนดมาก่อน      .- สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ