บังกลาเทศ 6 พ.ค. – บังกลาเทศที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียใต้ถือเป็นตลาดใหม่ นอกจากที่ผู้ประกอบการไทยจะให้ความสนใจในเรื่องการส่งออกแล้ว นักลงทุนไทยอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศนี้
การเดินทางเยือนประเทศสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ ของนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมผู้บริหารบีโอไอ และนักลงทุนไทย เพื่อสำรวจตลาดและช่องทางการลงทุนใหม่ ภายหลังการหารือร่วมหน่วยงานลงทุนและผู้ประกอบการในพื้นที่ ส่วนใหญ่ให้การตอบรับ ปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่งพบว่ามาจากความนิยมในสินค้าไทยของชาวบังกลาเทศ ทั้งสินค้าการเกษตร ผักผลไม้ และอุปโภคบริโภค
นายกอบศักดิ์กระบุว่า ความน่าสนใจของตลาดบังกลาเทศมาจากประชากรที่มีกว่า 160 ล้านคน ขณะที่อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจบังกลาเทศ ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 6-7 ส่งผลให้กำลังซื้อ ภายในประเทศปรับตัวไปในทิศทางที่ดีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้บังกลาเทศเป็นตลาดที่มีศักยภาพของสินค้าไทยแน่นอน
ขณะที่ผู้ประกอบการซึ่งนำเข้าสินค้าเกษตรมาจำหน่ายในกรุงธากา เมืองหลวงของบังกลาเทศ เรียกร้องให้รัฐบาลไทยเร่งเจรจาเปิดเขตการค้าเสรีกับบังกลาเทศ เพื่อให้เร่งผ่อนคลายกำแพงภาษี ปัจจุบันผู้ประกอบการไทยต้องแบกรับภาระสูงกว่าผู้นำเข้าสินค้าจากจีนและอินเดีย ส่งผลให้สินค้าของไทยจำเป็นต้องจำหน่ายในราคาที่สูง แต่ก็ยังรับความนิยมจากคุณภาพที่ดี หากในอนาคตภาษีต่ำลงเชื่อว่าจะสามารถกำหนดราคาที่ขยายฐานลูกค้าไปสู่คนชั้นกลางและผู้มีรายได้น้อยมากขึ้น
ส่วนประเด็นการลงทุนในบังกลาเทศ แม้จะมีความเป็นไปได้ในอนาคต เหมือนเช่นประเทศอื่นๆ ที่อยู่ในช่วงการเติบโตทางเศรษฐกิจ บีโอไอย้ำทุกครั้งก่อนการลงทุนว่า ผู้ลงทุนต้องศึกษาตลาดโดยรอบคอบ พิจารณาเลือกพันธมิตรที่ดี และศึกษาข้อกฎหมายของแต่ละประเทศให้เข้าใจ
การเดินหน้าเชื่อมโยงเศรษฐกิจไทยกับบังคลาเทศ หลังจากนี้ต้องติดตามความคืบหน้าต่อไป รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 ปี เพื่อเร่งเจรจา นำไปสู่การลงนามเอ็มโอยู การค้าเสรีในอนาคต โดยจะพิจารณาลงลึกเป็นรายสินค้าและอุตสาหกรรมต่อไป. – สำนักข่าวไทย