ถอดบทเรียนคดีล่าเสือดำ

กรุงเทพฯ 4 พ.ค.-หลังเกิดคดีล่าเสือดำในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ทำให้มีความเห็นหลากหลายด้านในการคุ้มครองสัตว์ป่าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยนักวิชาการได้ให้ความเห็นถึงความสำคัญของกฎหมาย และความมีส่วนร่วมดูแลของทุกฝ่าย ติดตามจากรายงาน



กว่า 3 เดือน นับจากเกิดคดีล่าเสือดำ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก กระแสจากหลายฝ่าย หลากบุคคล บางให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา แต่ก็มีหลายความเห็น เห็นว่าอิทธิพลของบางบุคคลของทำให้กฎหมายไม่สามารถเอาผิดได้เต็มที่ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้จัดเสวนา “จะเดินต่อไปอย่างไร เสือดำ” มีนักวิชาการร่วมให้ความเห็น แลกเปลี่ยนมุมมอง โดยศ.ดร.สนิท อักษรแก้ว


รอง ปธ.คมธ.ทรัพยากรฯและสิ่งแวดล้อม บอกว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะบางคนไม่ยึดกติกาของบ้านเมือง รวมถึงไม่มีความเกรงกลัวกฎหมาย โดยต้องยอมรับว่า พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 อาจจำเป็นต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไข เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ซึ่งนั้นจะช่วยให้เกิดการเคร่งครัด รัดกุม และลดการกระทำผิดได้มากยิ่งขึ้น

ด้านโฆษกประจำกรมอุทยานแห่งชาติฯ บอกว่า การสร้างความมีส่วนร่วม ก็สำคัญไม่แพ้การใช้กฎหมาย เพราะเพียงเจ้าหน้าที่เอง หรือเทคโนโลยีเองไม่สามารถปิดล้อมป่าไม่ให้เกิดการทำผิดได้ คน ชุมชน เครือข่ายอนุรักษ์จึงเป็นกำลังสำคัญในการปกป้องรักษาทรัพยากรธรรมชาติ นอกจากนี้การสร้างมาตรฐานการประเมินคุณค่าและมูลค่าของสัตว์ป่าแต่ละชนิด อาจมีส่วนให้ใช้เพิ่มโทษผู้กระทำผิด หรือเรียกค่าชดใช้ความเสียหายได้อย่างเหมาะสม


ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นกฎหมาย การมีส่วนร่วม หรือปัจจัยเพิ่มโทษอื่นๆ ล้วนมีสำคัญ ให้เกิดความเป็นธรรมต่อสัตว์ป่า ทรัพยากรธรรมชาติของคนไทย ที่ถูกทำลายไปด้วยความต้องการส่วนตัวของคนเพียงไม่กี่คน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ติดตามภารกิจช่วยเหลือคนติดซาก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอาคาร สตง.ถล่ม ติดตามภารกิจช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ใต้ซากอาคาร พร้อมให้กำลังใจทุกหน่วยงานทำงานอย่างเต็มที่

ตึกถล่มแผ่นดินไหว

72 ชั่วโมง ยังมีหวังพบผู้รอดชีวิตตึก สตง. ถล่ม

ใกล้ครบ 72 ชั่วโมงเหตุตึก สตง. ถล่ม แต่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายยังไม่ละความพยายาม และยังมีความหวังในการค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซาก

ตรวจอาคารแผ่นดินไหว

ตรวจอาคารใน กทม.แล้วกว่าหมื่นแห่ง พบสีแดง 2 แห่ง ยังห้ามเข้าใช้ จากเหตุแผ่นดินไหว

หน่วยงานร่วมแถลงสถานการณ์ภาคเศรษฐกิจและระบบทางการเงินจากเหตุแผ่นดินไหว เผยตรวจสอบอาคารแล้วกว่า 10,000 แห่ง เป็นสีเขียว พบ 2 แห่ง ยังมีสีแดงไม่ให้เข้าใช้อาคาร แจง 4 บริษัทประกันภัยตึก สตง.ถล่ม ทำประกันภัยต่อกับบริษัทประกันต่างประเทศ

อพยพออกจากตึก

ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ แจ้งให้เข้าใช้งานในอาคารได้แล้ว

ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ สั่งคนออกจากตึกทันที หลังเกิดเสียงดัง-รอยร้าว-เศษปูนร่วง ล่าสุดแจ้งให้เข้าใช้งานในอาคารได้แล้ว