4 พ.ค. – ปัญหาการทุจริตเงินคนไร้พึ่ง ที่มีข้าราชการและอดีตข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้อง ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งสมุทรปราการเรียกร้องให้ดำเนินคดีอาญากับคนเหล่านี้ นอกเหนือจากโทษทางวินัย เพราะมองว่ามีลักษณะเหมือนแก๊งมิจฉาชีพ ด้านเลขาธิการ ป.ป.ท.ยืนยันหากพบทำผิดจริงสามารถดำเนินคดีได้
แม้ ป.ป.ท.จะสรุปผลสอบจำนวนศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งที่พบการทุจริตในปี 2560 จำนวน 67 ศูนย์ จาก 77 ศูนย์ทั่วประเทศแล้วในเบื้องต้น แต่ประเด็นที่ถูกตั้งคำถามคือ ความไม่สอดคล้องของสัดส่วนตัวเลขประชากรกับจำนวนงบอุดหนุนที่ได้รับในหลายจังหวัด โดยจังหวัดที่ ป.ป.ท. พบมีตัวเลขเงินทุจริตสูงมาก เช่น ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งเชียงใหม่ มีประชากรที่รับผิดชอบกว่า 1.2 ล้านคน ได้รับงบ 8.5 ล้านบาท อุดรธานี ประชากรที่รับผิดชอบ 1.4 ล้านคน ได้งบกว่า 7 ล้านบาท แต่กลับกันในบางจังหวัด เช่น หนองบัวลำภู มีประชากรรับผิดชอบ 460,000 คน ได้งบเพียง 530,000 บาท ซึ่งมีนับสิบจังหวัดที่มีตัวเลขประชากรรับผิดชอบมากกว่าล้านคน แต่ได้รับงบอุดหนุนของศูนย์ไร้ที่พึ่งเพียงหลักแสนบาท
เมื่องบประมาณที่บางศูนย์คนไร้ที่พึ่งได้รับมาน้อยผิดปกติ การบริหารงบให้เพียงพอตลอดปีจึงเป็นหน้าที่ของ ผอ.ศูนย์ ที่ไม่เพียงแต่ต้องจ่ายเงินอุดหนุนผู้ที่ได้รับเงินสงเคราะห์ตามหลักเกณฑ์แล้ว ยังต้องมีงบที่ใช้เพื่อดูแลคนไร้ที่พึ่งที่เข้ามารับบริการ นี่คือห้องพักผู้ไร้ที่พึ่งภายในศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งของจังหวัดหนึ่งในปริมณฑล มีการปรับพื้นที่ให้อาคารชั้น 1 จากเดิมเป็นห้องพักของเจ้าหน้าที่ศูนย์ ไปเป็นห้องพักชั่วคราวของคนไร้ที่พึ่ง ระหว่างรอส่งต่อไปยังศูนย์ช่วยเหลืออื่น ขนาดห้องไม่เกิน 30 ตารางเมตร แบ่งอยู่ห้องละ 3 คน ทั้งผู้ป่วยเรื้อรัง คนชราพลัดหลง และคนเร่ร่อน ครุภัณฑ์สำคัญ เช่น เตียงนอน มาจากการใช้เงินส่วนตัวซื้อหรือนำของเหลือใช้มาให้ช่วย
ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งสมุทรปราการ เปิดใจหลังยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ให้ตรวจสอบอดีตปลัดกระทรวง พม. และอยากให้ดำเนินคดีทางอาญามากกว่าเอาผิดทางวินัยอย่างเดียว เพราะมองว่ากระทำเป็นขบวนการ ลักษณะยักยอกทรัพย์ เธอเล่าว่าไม่เคยได้รับการติดต่อให้ร่วมทุจริต ไม่ได้อยู่ในขบวนการทุจริต ทำให้ได้รับผลกระทบคือ นับจากปี 2559 ได้รับงบประมาณน้อยลงทุกปี เมื่อเทียบกับประชากรที่รับผิดชอบ 1.1 ล้านคน งบปี 2560 ได้รับ 700,000 บาท แต่ต้องดูแล 3 อาคาร คือ อาคารที่พัก อาคารศูนย์พระประแดง และอาคารศูนย์บางเสาธง และภารกิจลงพื้นที่เมื่อจะของบเพิ่มเติมก็ได้รับการปฏิเสธ
เธอยังบอกด้วยว่า ข้าราชการ พม.ส่วนใหญ่เป็นคนดี แต่มีเพียงคนกลุ่มเดียวที่ทำเป็นแก๊งมิจฉาชีพ และเชื่อมโยงอดีตข้าราชการระดับสูง
เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า หลังตรวจสอบทุจริตศูนย์คนไร้ที่พึ่งทั่วประเทศครบแล้ว จะสรุปว่าจะตั้งไต่สวนจังหวัดใดบ้าง โดยพบหลักฐานทั้งพยานบุคคล และเอกสารที่มีการปลอมแปลง บางศูนย์มีข้อมูลแล้วว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีบุคคลที่ผิดปกติ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ลาออกทันที หากพบผิดจริงดำเนินคดีได้ และพบผู้ร่วมกระทำผิดศูนย์ละ 4-5 คน ระดับสูงสุดคือ ผอ. ส่วนระดับที่สูงกว่านั้นเป็นอำนาจของ ป.ป.ช. ซึ่งพบทั้งพยานบุคคลและเส้นทางการเงินแล้วว่ามีการโอนเงินกลับไปให้ข้าราชการระดับสูงใน พม. 3 คน จริง
ล่าสุด ป.ป.ท.จะเริ่มลงพื้นที่ขยายผลเฟส 3 เพิ่มอีก 28 แห่ง ทั้งศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูง นิคมสร้างตนเอง และศูนย์ประสานหมู่บ้านสหกรณ์ งบประมาณกว่า 103 ล้านบาท และป.ป.ท.ยังมีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนความผิดเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งอีก 7 แห่ง คือ ราชบุรี นครปฐม อ่างทอง อยุธยา ยโสธร ตาก และเพชรบูรณ์. – สำนักข่าวไทย