10 ต.ค. – กทม.ร่วมกับ ป.ป.ท.และ ปปป.จับเทศกิจวัยใกล้ใกล้เกษียณ เขตดุสิต เรียกรับผลประโยชน์ผู้รับเหมาก่อสร้างในพื้นที่ อ้างทำผิด พ.ร.บ.ความสะอาด บังคับจ่าบช่วยเดือนละ 3,000 บาท
ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบหรือ ปปป. เข้าจับกุมเจ้าหน้าที่เทศกิจเขตดุสิตนายหนึ่ง หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนว่าใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เรียกรับเงินจากผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง
พฤติการณ์คือ เจ้าหน้าที่ผู้ก่อเหตุได้นัดหมายนายสมพงษ์ ผู้เสียหายให้เข้าไปพบที่สำนักงานเขตดุสิต ฝ่ายเทศกิจ เมื่อ 22 กันยายน และ 6 ตุลาคม เพื่อเจรจาจ่ายเงินค่าคุ้มครองแลกกับการไม่เข้าไปตรวจที่ไซด์งานโดยได้ข้อสรุปจ่ายเป็นรายปีระยะเวลารวม 12 เดือน เป็นเงิน 6,000 บาท เป็นเหตุให้ผู้เสียหายเข้าร้องเรียนกับทาง ปปป.จนนำไปสู่การวางแผนเข้าจับกุมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รักษาราชการแทน ผู้บังคับการ ปปป. เปิดเผยว่าก่อนการเข้าจับกุมผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์และปรึกษากับทาง ปป.ท.มาก่อนแล้ว พร้อมระบุคำร้องว่า มีเจ้าหน้าที่เทศกิจจากสำนักงานเขตดุสิต เข้าตรวจงานก่อสร้างที่ไซต์งานตามปกติ แต่ว่ามีการอ้างกับผู้รับเหมาว่า งานก่อสร้างทำผิด พ.ร.บ.ความสะอาดฯ และจะต้องจ่ายค่าปรับเป็นรายวันจนกว่าจะมีการแก้ไขให้ถูกต้อง จากนั้นนัดให้เข้าไปเจรจาที่สำนักงานเขต ก่อนจะพูดคุยในลักษณะข่มขืนใจ ให้ยินยอมจ่ายค่าคุ้มครองเป็นรายเดือน ส่วนการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ก่อเหตุยังอ้างว่ารับผลประโยชน์แต่เพียงผู้เดียว
ในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ ฯ ตามมาตรา 149, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดฯ ตามมาตรา 157, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐเรียกรับหรือยอมที่จะรับหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบฯ
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการ ปปป. ระบุว่าในภาพรวมทั่วประเทศกรณี เจ้าหน้าที่รัฐ เรียกรับสินบนในแต่ละปี มีมูลค่าสูงถึง 1,000 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้เป็นมูลค่าน้อยอย่างที่คิดและการเรียกรับเหล่านี้ เจ้าหน้าที่อาศัยช่องว่างและอำนาจหน้าที่ในการข่มขืนใจเรียกรับเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
ด้านนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่าแม้จะเป็นเงินจำนวนเพียง 6,000 บาท แต่อยากให้มองที่เจตนาของการทุจริตในอำนาจหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเงินกี่บาทก็จะไม่ได้รับการละเว้น ปล่อยไปไม่ได้ เพราะอาจจะกลายเป็นเยี่ยงอย่างแก่เจ้าหน้าที่คนอื่นได้
นางสาวเต็มศิริ เนตรทัศน์ ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักงาน คณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการให้ข้อมูลว่านับจากเปิดศูนย์มาได้ประมาณ 7-8 เดือน พบว่า ประชาชนให้ความไว้วางใจและยื่นเรื่องร้องเรียนเจ้าหน้าที่รัฐ เรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบเข้ามาแล้ว 250 กรณี ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ มีบางเรื่องที่ตรวจสอบแล้วพบว่ามีมูลก็จะเข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวน ส่วนเรื่องไหนที่ไม่มีมูลหรือเข้าข่ายร้องเรียนกลั่นแกล้งจะถูกนำจากสารบบไป แต่สำหรับกรณีที่ถูกจับดำเนินคดีในวันนี้ไม่ได้ปรากฏอยู่ในสาระบบที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามา หากประชาชนพบเห็นการทุจริตในภาครัฐหรือถูกเรียกรับผลประโยชน์จากเจ้าหน้าที่รัฐสามารถร้องเรียนได้ทั้งกับหน่วยงานโดยตรง หรือ กับ ตำรวจ ปปป. -สำนักข่าวไทย