ร้องกองปราบพ่อเสียฃีวิตอย่างมีเงื่อนงำแต่คดีไม่คืบ

กรุงเทพฯ 28 เม.ย.- ครอบครัวนำผลชันสูตรศพบิดาพร้อมหลักฐานต่างๆ ร้องขอความเป็นธรรมที่กองปราบ ช่วยคลี่คลายคดีหลังพบว่าบิดาเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ โดยพื้นที่สรุปเป็นอุบัติเหตุและคดีไม่มีความคืบหน้า


น.ส.ณฤดี  ศรีวิเชียร และนางจุไรรัตน์  สระทองคำ พร้อม นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความและประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ร้องขอความเป็นธรรมพร้อมหลักฐานถึง พลตำรวจตรีไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบ   ช่วยคลี่คลายคดีและจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี หลังนายแบน ศรีวิเชียร อายุ 75 ปี บิดาเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ โดยแจ้งความไว้ที่ สภ.ศรีประจันต์ แต่คดีไม่มีความคืบหน้า 

เหตุการณครั้งนี้สืบเนื่องจากวันที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา นางจุไรรัตน์โทรหาผู้ตาย ที่อาศัยเพียงลำพังในบ้านพักใน ต.วังยาง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี  นับสิบครั้ง แต่โทรไม่ติด คล้ายแบตหมด รุ่งเช้าวันที่ 12 จึงโทรอีกครั้งแต่ก็เป็นเช่นเดิม จึงโทรหาเพื่อนบ้านให้เข้าไปดูจึงพบว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว และแจ้งความไว้ที่ สภ.ศรีประจันต์ โดยพนักงานสอบสวนสรุปว่าผู้ตายล้มและคลานออกไปหาคนช่วย แต่ลูกผู้ตายยังติดใจจึ่งส่งศพชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจผลสรุปว่าผู้ตายถูกกระทำให้เสียชีวิต จึงนำผลส่งให้ตำรวจ สภ.ศรีประจันต์  ซึ่งมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยแต่ตำรวจระบุว่าหลักฐานอ่อนจึงปล่อยตัวไป จนถึงขณะนี้คดียังไม่มีความคืบหน้า


นางจุไรรัตน์ ระบุยังติดใจการเสียชีวิตของบิดาหลายประเด็น เนื่องจากวันที่พบศพผู้ตายใส่ถุงเท้าแต่ไม่เปื้อนเลือดเลย ทั้งที่เลือดเต็มบ้านไปหมด ส่วนที่ท้ายทอยก็มีรอยโดนทุบด้วยของแข็ง ตามแขนก็มีรอยแผลเต็มไปหมด และพ่อยกแขนขึ้นเหมือนป้องกันตัว  พบโทรศัพท์มือถือถูกเอาไปซ่อนและถูกลบข้อมูลการโทรทั้งหมด ทั้งที่พ่อทำได้แค่รับสายและโทรออกเท่านั้น และยังพบรอยเท้าเปื้อนเลือดเดินทั่วบ้าน รวมทั้งห้องน้ำ ผนัง และผ้าม่าน และยังพบข้าวของล้มทั่วบ้าน

ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ต้องการให้พนักงานสอบสวนเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติมรวมทั้งตรวจสอบรอยเท้าคนภายนอกที่พบในที่เกิดเหตุ ขณะที่โทรศัพท์มือถือได้ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกู้ไฟล์ตรวจสอบข้อมูลการโทรแต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ก่อนหน้านี้ได้มีการยื่นร้องเรียนต่อตำรวจภูธรภาค 7 ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมามีผลสรุปออกมาว่าเป็นการฆาตกรรม นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้องสงสัยที่เป็นหญิงสาวมีความใกล้ชิดกับคนมีสีในพื้นที่ทำให้กังวลว่าคดีจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

โดยพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ได้รับเรื่องไว้ และเตรียมเสนอให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระบะชนต้นไม้

สังเวย 7 ศพ กระบะหักหลบรถรับ-ส่งนักเรียน พุ่งชนต้นไม้

รถกระบะเสียหลักจะชนรถตู้รับ-ส่งนักเรียน คนขับตัดสินใจหักหลบ ทำให้รถพุ่งชนต้นไม้ เสียชีวิต 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 4 คน

สลด! รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยวเบตง ชนต้นไม้ ดับ 8 ราย

รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยว อ.เบตง จ.ยะลา เสียหลักไถลลงร่องกลางถนนชนต้นไม้บนถนนสาย 41 อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

ตักบาตรปีใหม่

ปชช.ร่วมตักบาตรวันปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล

ประชาชนร่วมกิจกรรมตักบาตร​ รับปีใหม่ 2568 เนืองแน่น​ “สุดาวรรณ” เผยตัวเลขสวดมนต์ข้ามปี กว่า 12 ล้านคน พร้อมเชิญชวนสักการะพระเขี้ยวแก้ว ถึง 14 ก.พ.นี้

ข่าวแนะนำ

เมืองพัทยาเอาจริง เร่งจัดการผู้ลักลอบจุดพลุชายหาด

เมืองพัทยาสั่งแล้ว เร่งจัดการผู้ลักลอบจุดพลุบนชายหาด หลังเกิดเหตุพลุล้ม วิ่งไประเบิดใส่เด็กบาดเจ็บทั่วร่าง ในคืนเคานท์ดาวน์

SET ปิดตลาดซื้อขายวันแรกปี 68 ร่วงลง 20.36 จุด

ดัชนี SET วันแรกของการซื้อขายปี 2568 ปิดที่ 1,379.85 จุด ปรับตัวลดลง 20.36 จุด หรือ 1.45% มูลค่าการซื้อขาย 36,852.83 ล้านบาท ตลาดกังวลนโยบายการค้าระหว่างประเทศ-นโยบายภาษี

สั่งตรวจสอบถนนจุดเกิดเหตุรถทัวร์คว่ำ-กระบะชนต้นไม้

ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ฯ สั่งตรวจสอบถนนจุดเกิดเหตุรถทัวร์พลิกคว่ำและกระบะหักหลบรถตู้รับส่งนักเรียนชนต้นไม้ หลังพบเป็นถนนตัดใหม่ การก่อสร้างยังไม่เสร็จสมบูรณ์

บขส.โคราชแน่น คนแห่เข้ากรุง หลังฉลองปีใหม่

บขส.โคราชแน่นต่อเนื่อง แห่ซื้อตั๋วรถโดยสารกลับกรุงเทพฯ คึกคัก ขณะที่ขนส่งจังหวัดฯ ตรวจสารเสพติดพนักงานขับรถเข้ม ป้องกันอุบัติเหตุ