ศธ. 23 เม.ย.-ขยายเวลาสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีทุจริตเงินกองทุนเสมาฯอีก 15 วัน เตรียมเรียกข้าราชการ ศธ.ที่เกี่ยวข้องการโอนเงิน 19 รายให้ปากคำ 25 เม.ย.นี้ หลังพบการโอนเงินไม่รัดกุม ด้านอดีตปลัด-รองปลัดศธ. 3 รายยังไม่ชี้แจงทั้งยังขอเอกสารเพิ่มเติม
นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนข้อเท็จจริงว่า ตนเตรียมทำหนังสือถึง นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อรายงานผลการสืบสวนและขอขยายเวลาในสืบข้อเท็จจริงไปอีก 15 วัน หรือภายในวันที่15 พ.ค.จากเดิมคาดว่าจะสรุปผลภายในสิ้นเดือนนี้ เนื่องจากตรวจ สอบพบความบกพร่องในขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินเพิ่มเติม อาทิ เอกสารตอนขออนุมัติกับฉบับที่สรุปส่งให้ธนาคารโอนเงินแตกต่างกัน มีการสลับตำแหน่งและลำดับการโอน จึงตรวจสอบยากมากเพราะไม่มีเลขบัญชี ,มีการกำหนดมาตรการการส่งใบเสร็จรับเงิน ที่พบว่าสถานศึกษาหลายแห่งออกใบเสร็จรับเงิน แต่ใบเสร็จรับเงินไม่ได้ถูกนำมาเก็บในงานบัญชี แต่กลับไปเก็บที่นางรจนา อดีตข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการที่ยอมรับว่าทุจริต จนกลายเป็นความเคยชินที่หนังสือราชการจากสถานศึกษาบางฉบับแทนที่จะเรียนถึงปลัดกระทรวงศึกษาธิการแต่กลับเรียนถึงนางรจนาเลยก็มี จึงจำเป็นต้องตรวจสอบเพิ่มเติม
นายอรรถพล กล่าวต่อว่า โดยเตรียมเรียกข้าราชการและเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการของกระทรวงศึกษาธิการที่ปฏิบัติงานในด้านการเบิกจ่ายเงินของกองทุนตั้งแต่ปีพ.ศ. 2548 มาให้ปากคำรวมทั้งหมด 19 คน อาทิ ผู้มีอำนาจเซ็นเบิกถอน ผู้ลงนามถอน ผู้จัดการบัญชีและผู้ที่รวบรวมเอกสารทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.นี้เป็นต้นไป เพื่อสอบถามถึงเส้นทางการโอนเงิน และวิธีการตรวจสอบเอกสารต่างๆว่ามีความรัดกุมและมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด โดยใน 19 คนบางส่วนยังทำงานที่กระทรวงศึกษาธิการ ขณะที่บางส่วนก็ย้ายไปสังกัดหน่วยงานอื่นแล้ว
นายอรรถพล กล่าวด้วยว่า ส่วนอีกเหตุผลที่ต้องขยายเวลาสืบข้อเท็จจริงออกไป เนื่องจากต้องรอข้อมูลจากศึกษาธิการจังหวัดบางแห่งก่อน เพราะดำเนินการล่าช้าและไม่รับผิดชอบต่อข้อมูลเท่าที่ควร และก็อยู่ระหว่างการรอ statement หลังได้ดำเนินการขอไปยังธนาคารทุกแห่ง เพื่อตรวจสอบว่า
เลขที่บัญชีที่โอนเงินไปให้สถานศึกษาแทนสำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นเลขที่บัญชีใครซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับข้อมูล ซึ่งอาจต้องขยายผลเพิ่มเติมอีกก็ได้ แต่ถึงอย่างไรจะต้องเร่งรัดให้สรุปตัวเลขความเสียหายที่แท้จริงออกมาอย่างเร็วที่สุด เพื่อให้กองทุนเข้าไปเยียวยาเด็กที่ได้รับผลกระทบก่อน ซึ่งเบื้องต้นความเสียหายขณะนี้อยู่ที่ 42 ล้านบาท
ส่วนความคืบหน้าในการเรียกอดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการและรองปลัดศธ.ให้ชี้แจงข้อมูลภายในวันที่ 25 เม.ย.นี้นั้น มีอดีตปลัด-รองปลัด ศธ.ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรชี้แจง เพื่อยืนยันการใช้ดุลยพินิจในการเสนอหรือสั่งการเรื่องดังกล่าวแล้ว ขณะที่บางส่วนเดินทางมาชี้แจงด้วยตนเอง แต่ยังเหลืออีก 2-3 รายที่ยังไม่ชี้แจงแต่กลับขอเอกสารเพิ่มเติมจากคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งตนมองว่าหากเพิ่มความยุ่งยากในการทำงานของคณะกรรมการ อาจตัดบางประเด็นในการสืบสวน เพราะขณะนี้ถือว่ามีเอกสารประกอบที่เพียงพอแล้ว
ขณะที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีเจ้าของบัญชีที่เปิดบัญชีรับโอน 1 รายและตัวแทนของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งที่ได้รับเงินมาให้ปากคำเพิ่มเติม แต่เนื่องจากข้อมูลที่ได้รับไม่ตรงกัน จึงให้โรงเรียนไปรวบรวมเอกสารและมาชี้แจงอีกครั้ง ส่วนที่มีการขอเอกสารเพิ่มเติมจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) ขณะนี้ยังรอคณะกรรมการฯ แต่ถึงอย่างไรก็ทำงานประสานกันมาโดยตลอด.-สำนักข่าวไทย