เสนอปิดโรงแรมดังพัทยาจัดปาร์ตี้เซ็กซ์สวิงกิ้ง

ชลบุรี 22 เม.ย.-คืบหน้าคดีบุกทลายปาร์ตี้เซ็กซ์สวิงกิ้งในโรงแรมย่านเขาพระตำหนัก พัทยาใต้ จ.ชลบุรี ล่าสุด เจ้าหน้าที่เสนอปิดโรงแรมดังกล่าวแล้ว หลังพบเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาตมานานเกือบ 5 ปี โทษปรับกว่า 18 ล้านบาท


พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผู้กำกับการ สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้คัดแยกบุคคลที่ร่วมปาร์ตี้สวิงกิ้งในโรงแรมแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยสภาพโรงแรมตั้งอยู่ใจกลางเมืองพัทยา สูง 4 ชั้น มีห้องพักกว่า 30 ห้อง บนเนื้อที่กว่า 1 ไร่เศษ โดยชั้นล่างถูกแบ่งออกเป็น 3 โซน ประกอบด้วย โซนสระว่ายน้ำ โซนเคาน์เตอร์บาร์ และที่ต้องตกใจไปกว่านั้น คือ โซนสุดท้ายถูกจัดเป็นห้องจัดปาร์ตี้เซ็กซ์หมู่ หรือเรียกกันว่า “ห้องเพลย์” โดยพบคู่รักชายหญิงหลายสัญชาติ เช่น สหรัฐ แคนาดา จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ เยอรมัน ไทย กัมพูชา อินเดีย และยูเครน จำนวนหลายคู่ แยกเป็นชาย 14 คน หญิง 14 คน รวมเป็น 28 คน กำลังเปลือยกายล่อนจ้อน 


โรงแรมดังกล่าวมีนายเซิ่งไฉ หยาง อายุ 53 ปี สัญชาติจีน เป็นเจ้าของกิจการโรงแรม และจากข้อมูลพบเป็นจัดปาร์ตี้สวิงกิ้งโดยเปิดเว็บไซต์ในต่างประเทศ เชิญชวนชายหญิงร่วมกิจกรรมทางเพศ โดยต้องสมัครและชำระเงินผ่านระบบอินเทอร์เน็ต


เบื้องต้นแจ้งดำเนินคดีกับนายเซิ่งไฉ หยาง ในข้อกล่าวหาประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท  แต่ทั้งนี้ยังมีโทษปรับตั้งแต่วันที่ฝ่าฝืน วันละ 10,000 บาท มาประมาณ 5 ปี คิดเป็นค่าปรับประมาณ 18 ล้านบาท และข้อหาร่วมสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ชักพาไปเพื่อการอนาจารชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ส่วนพนักงานโรงแรมอีก 3 คน ดำเนินคดีในข้อหาเป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือในการกระทำความผิด ขณะที่ผู้ร่วมปาร์ตี้สวิงกิ้งทั้งหมดตรวจสอบปัสสาวะ พบว่ามีเกี่ยวข้องกับสารเสพติด 1 ราย เป็นชาวฟิลิปปินส์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง