กรุงเทพฯ 22 เม.ย.-องอาจมองกรณีสนช.ไม่เลือกผู้เข้ารับยการสรรหากสททช มีความไม่ชอบมาพากลตั้งแต่คณะกรรมการสรรหา ผลักดันคนที่มีผลประโยชน์กับธุรกิจกิจการโทรทัศน์ ย้ำต้องโปร่งใส
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) มีมติไม่เลือกผู้เข้ารับการสรรหาเป็นคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ทั้ง 14 คนว่า น่าจะมีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มต้นที่คณะกรรมการสรรหาจนได้รายชื่อจำนวนหนึ่งมาให้คณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้สมควรได้รับเลือกตั้งเป็นกสทช. และเข้าสู่การพิจารณาเลือกของสนช. เพราะมีความพยายามที่จะผลักดันบุคคลที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับธุรกิจกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมทั้งทางตรงและทางอ้อมเข้ามาเป็นกสทช.
“การสรรหา กสทช. ครั้งนี้จึงมีความเคลือบแคลงสงสัยว่ากระบวนการสรรหาที่เริ่มต้นจากคณะกรรมการสรรหาตามที่กฎหมายกำหนดได้ทำหน้าที่ครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ ได้มีความพยายามบล็อกโหวตดังที่มีการกล่าวหาหรือไม่อย่างไร สนช.ได้ทำหน้าที่ตามที่พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 บัญญัติไว้หรือไม่ เพราะกฎหมายบัญญัติให้สนช.มีหน้าที่ลงมติเลือกเท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่ให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ เหมือนกับกรณีการพิจารณาเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระอื่นๆ อีกทั้งการที่ สนช.ไม่เลือกแต่ใช้วิธีมีมติล้มการเลือกกสทช. จะทำให้มีปัญหาตามมาอีกหลายด้านหรือไม่ ดังนั้น การสรรหาควรต้องโปร่งใส” นายองอาจ กล่าว
นายองอาจ กล่าวว่า มีข้อสงสัยว่ามีการส่งสัญญาณจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) หรือผู้มีอำนาจในบ้านเมืองให้ล้มการเลือกกสทช.ครั้งนี้ เพราะมีคนไม่พอใจบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อหรือไม่ เพราะตามปกติการทำหน้าที่ของสนช.ถูกมองว่าเป็นสภาตรายาง พร้อมที่จะทำตามความต้องการของผู้มีอำนาจอยู่แล้ว ยิ่งมีคลิปเสียงที่มีคำพูดอ้างว่านายกรัฐมนตรีไม่พอใจบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อ ก็ยิ่งทำให้ถูกสงสัยว่า สนช. กำลังทำหน้าที่สภาตรายางอีกครั้งเพื่อสนองตอบผู้มีอำนาจหรือไม่ เพราะเหตุผลที่สนช. อ้างว่าต้องล้มการเลือกกสทช. เพราะกรรมการสรรหามีปัญหาเรื่องคุณสมบัติเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เนื่องจากการวินิจฉัยเรื่องคุณสมบัติเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหา ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ สนช.ไม่ควรทำหน้าที่เป็นศาลตัดสินเสียเอง
“กสทช.เป็นคณะกรรมการที่มีความสำคัญเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มหาศาล และมีอำนาจหน้าที่ ที่จะให้คุณ ให้โทษ ได้อย่างมาก การสรรหา กสทช. จึงต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และก่อให้เกิดความมั่นใจได้ ว่าเราจะได้ กสทช. ที่มีหิริโอตตัปปะ ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ จึงขอเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสรรหา กสทช. ทั้งคณะกรรมการสรรหา และ สนช. ถ้าทำหน้าที่ด้วยความสุจริตเที่ยงธรรมโปร่งใส ไม่มีลับลมคมในข้อเคลือบแคลงสงสัย เพื่อประโยชน์ ของประชาชนอย่างแท้จริง” นายองอาจ กล่าว.-สำนักข่าวไทย
