กรุงเทพฯ 21
เม.ย.-กสิกรไทยประเมิน แนวโน้มส่งออก-ผลประกอบการ บจ.สะท้อน
ค่าเงินบาท-หุ้นไทยสัปดาห์หน้า
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
จำกัด รายงานว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทขยับอ่อนค่าลงเล็กน้อย
แต่ในภาพรวมยังถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวในกรอบที่ค่อนข้างแคบ
สอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ได้รับแรงหนุนกลับมาบางส่วนจากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
หลังเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดระดับสูงมองว่า เงินเฟ้อของสหรัฐฯ
มีแนวโน้มที่จะขยับขึ้นเข้าสู่ระดับเป้าหมายของเฟดในปีนี้ นอกจากนี้
การอ่อนค่าของเงินบาท
ยังสอดคล้องกับสถานะขายสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติในระหว่างสัปดาห์ด้วยเช่นกัน
โดยในวันศุกร์ (20 เม.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.32
บาทต่อดอลลาร์ฯ จากระดับ 31.22 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันพฤหัสบดีก่อนหน้า (12 เม.ย.)
ด้าน ดัชนีตลาดหุ้นไทยสามารถยืนเหนือระดับ
1,800 จุดได้อีกครั้ง โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,801.28 จุด เพิ่มขึ้น
1.93% จากสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ดี
มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน ปรับเพิ่มขึ้น 20.27% จากสัปดาห์ก่อน มาที่
65,242.52 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 487.86 จุด
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (23-27 เม.ย.)
ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.10-31.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า
ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,780 และ 1,770
จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,810 และ 1,825
จุด ตามลำดับ โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศ น่าจะอยู่ที่ข้อมูลการส่งออกของไทยในเดือน
มี.ค. การทยอยประกาศผลการเงินดำเนินงานของบจ.งวดไตรมาส
1/2561 ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อื่นๆ ได้แก่ รายงานจีดีพีไตรมาส 1/2561 ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านใหม่และบ้านมือสองเดือนมี.ค. และดัชนี PMI Composite
(เบื้องต้น) เดือนเม.ย. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางยุโรป
และดัชนี PMI
Composite (เบื้องต้น) ของประเทศในแถบยุโรป–สำนักข่าวไทย