กรุงเทพฯ 19 เม.ย.-การนำหญิงไทยไปค้าประเวณีต่างประเทศ ปัจจุบันใช้ความรวดเร็วของเทคโนโลยีและการเดินทางข้ามแดนที่สะดวกง่ายดายขึ้นเป็นเครื่องมือ รูปแบบวิธีการนำพา การจัดหาผู้หญิงยังมีความแตกต่างกันในแต่ละกลุ่มประเทศ เช่น ชวนไปทำงาน ชักชวนแต่งงาน หรือเริ่มจากชวนทำงานในสถานบันเทิงในไทย
ข้อความรับสมัครงานบนหน้าเว็บไซต์กำหนดคุณสมบัติรับเฉพาะหญิงสาวหน้าตาดีไปทำงานต่างประเทศ มีรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน ไม่มีประสบการณ์ก็ไปทำงานได้ บางแบนเนอร์ระบุภูมิลำเนาจังหวัดของหญิงสาวที่ต้องการด้วย
ผู้ประสานงานมูลนิธิพิทักษ์สตรีบอกว่า ข้อความเหล่านี้คือการชักชวนหญิงไทยไปค้าประเวณีต่างประเทศ เทคโนโลยีการสื่อสาร และการเดินทางข้ามแดนทำได้ง่ายขึ้น ทำให้ปัญหาค้ามนุษย์เพื่อการค้าประเวณีรุนแรงมากขึ้นด้วย แม้เริ่มแรกเป็นการไปโดยสมัครใจ แต่เมื่อไปอยู่ต่างประเทศอาจกลับถูกบังคับให้ค้าประเวณีใช้หนี้ ทั้งค่าเดินทาง ค่าดำเนินการ และไม่ได้รับเงินค่าจ้าง ก็เข้าข่ายถูกหลอกเช่นกัน
หลังสื่อต่างประเทศเสนอข่าวตำรวจเยอรมันปฏิบัติการกวาดล้างทลายแหล่งค้ากามและขบวนการชาวไทยครั้งประวัติศาสตร์ ได้ผู้ต้องสงสัยชาวไทยอย่างน้อย 56 คน แบ่งเป็นหญิง 41 คน ชาย 15คน อายุตั้งแต่ 26-66 ปี และหนึ่งในนั้นคือหญิงไทยวัย 59 ปี ที่น่าจะเป็นนายหน้าจัดหาคนไทยมาค้าประเวณี เธอมีแฟนเป็นชาวเยอรมัน ทำให้เกิดคำถามว่าเธอขึ้นมาเป็นระดับแกนนำได้อย่างไร
รูปแบบการนำหญิงไทยไปค้าประเวณีต่างประเทศ มีลักษณะแตกต่างกันในแต่ละโซน โซนยุโรป มักจะมีชาวต่างชาติเข้ามาเปิดสถานบันเทิงในไทย อย่างย่านสุขุมวิท โดยให้คนไทยเป็นนอมินี รับสมัครสาวสวยทำงานรายได้ดี ก่อนชักชวนไปต่างประเทศ รวมทั้งยังพบการเปิดร้านในแถบภาคอีสาน เพื่อเป็นที่พบปะระหว่างหญิงไทยและนายหน้าต่างประเทศ ก่อนส่งตัวไปต่างประเทศ หรือการหลอกให้แต่งงาน ก่อนพาไปต่างประเทศ และบังคับค้าประเวณี และในช่วง 2-3 ปีมานี้ นายหน้าต่างชาติมีแนวโน้มเลือกหญิงสาวอายุน้อยกว่า 18 ปี แต่งงานกันในเมืองไทยก่อน ให้พ่อแม่ฝ่ายหญิงตายใจ พออายุครบ 18 ปี พ่อแม่จึงยินยอมให้ไปต่างประเทศโดยไม่เฉลียวใจ
โซนแอฟริกา และตะวันออกกลาง นายหน้าจะไม่ออกตัว แต่ใช้วิธีติดต่อผ่านสื่อออนไลน์ และใช้นายหน้าคนไทยติดต่อให้หญิงไทยไปทำงานต่างประเทศ มักเลือกภาคอีสาน โดยให้คนที่เคยไปทำงานหรือตัวนายหน้าเอง แสดงความร่ำรวยจากการทำงาน เมื่อกลับมาเยี่ยมบ้าน เพื่อจูงใจผู้อื่น
โซนเอเชีย นายหน้าจากประเทศเหล่านี้จะเข้ามาติดต่อเอง และมักพูดภาษาไทยได้ ผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อจะไม่ไปคนเดียว แต่จะชวนเพื่อนไปเป็นกลุ่ม และยังพบว่าเมื่อเข้าไปในประเทศเหล่านี้แล้ว ยังถูกขายต่อไปเป็นทอดๆ ด้วย
ข้อมูลจากมูลนิธิพิทักษ์สตรีพบว่า ในปีที่แล้ว สามารถช่วยเหลือหญิงไทยที่ถูกหลอกไปค้าประเวณีต่างประเทศได้ 39 คน มากสุดคือที่มาเลเซีย 25 คน รองลงมาเป็นบาห์เรน 8 คน ไต้หวัน 4 คน เกาหลีใต้ 2 คน ส่วน 4 เดือนแรกของปีนี้ ช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์มาแล้ว 7 คน รวมรายล่าสุดเป็นหญิงไทย 5 คน ถูกบังคับค้าประเวณีที่มาเลเซีย.-สำนักข่าวไทย