ทำเนียบฯ 19 เม.ย.-“พล.อ.ประวิตร” เผยที่ประชุม คปต.อนุมัติเพิ่มบุคลากรด้านการศึกษาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เตรียมเสนอที่ประชุม ครม. ยืนยันเจาะไอร้องพร้อมประกาศเป็นพื้นที่เซฟตี้โซน เชื่อไม่ใช่การท้าทาย ปัดตอบคำถามดึงพรรคการเมืองอื่น ช่วยงานรัฐบาล
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ว่า ในที่ประชุม ทุกหน่วยงานได้รายงานความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ โดยเฉพาะการเพิ่มอัตราบุคลากรในเรื่องการศึกษา ซึ่งได้มีการอนุมัติในหลักการ และจะมีการนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป
ส่วนการดูแลพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ได้กำชับในเรื่องดังกล่าว แต่พบว่ายังคงมีการวางระเบิดในพื้นที่ จึงต้องมีการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการทำงานด้านยุทธวิธี ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี และมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ส่วนที่จะมีการประกาศพื้นที่ปลอดภัยใน อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส รวมกับมาราปาตานี พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า มีความพร้อมเช่นเดียวกับทุกพื้นที่ ซึ่งในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง ถือเป็นพื้นที่นำร่อง ให้เป็นพื้นที่เซฟตี้โซน แต่จะต้องสร้างความเข้าใจให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น และเชื่อว่าไม่ได้เป็นการท้าทายให้มีการก่อเหตุในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง มากขึ้น
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยที่เป็นสมาชิกกลุ่มไอเอส 4 คน ว่า เบื้องต้นทางการมาเลเซีย ระบุว่า 2 คนแรกไม่เคยเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ส่วนอีก 2 คน เคยเดินทางเข้ามาในประเทศไทย แต่เดินทางออกไปแล้ว 3 ปี โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า ยืนยันว่าผู้ต้องสงสัยไม่ใช่กลุ่มไอเอส เป็นเพียงนักเลงคีย์บอดร์ดเท่านั้น
ส่วนที่ทางการมาเลเซีย ระบุว่ากลุ่มไอเอส เล็ง จ.นราธิวาสเป็นที่ตั้ง พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า ไม่หวั่นไหว เพราะมีการป้องกันเป็นอย่างดี พร้อมขอให้ทางการมาเลเซียส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาให้เพื่อรับทราบ
เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามถามถึงกรณีที่จะมีการดึงพรรคการเมืองอื่น นอกเหนือจากพรรคพลังชล มาช่วยงานรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม และเดินทางขึ้นรถยนต์เพื่อเดินทางกลับทันที.-สำนักข่าวไทย