ไข้เลือดออกน่าห่วง ยังไม่เข้าหน้าฝน แต่พบอัตราป่วยตายสูงขึ้น

กรมควบคุมโรค 18 เม.ย.- กรมควบคุมโรค เป็นห่วงสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปีนี้ แม้ว่าจะยังไม่เข้าสู่หน้าฝน แต่พบว่าอัตราป่วยตายสูงขึ้น โดยเฉพาะในภาคกลางและภาคใต้


นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากรายงานของสำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง พบว่าในปี 2561 นี้มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกแล้ว 6,565 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่ใกล้เคียงกับทุกปีในช่วงเวลาเดียวกัน และได้รับรายงานผู้เสียชีวิต 18 ราย โดยเป็นผู้เสียชีวิตที่มีโรคประจำตัวหรือภาวะเสี่ยง 14 ราย (3 ใน 4 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด) ได้แก่ ภาวะอ้วน 4 ราย เบาหวานและความดันโลหิตสูง 2 ราย โรคเลือด 2 ราย ลมชักและบกพร่องทางสติปัญญา 2 ราย ติดสุรา 1 ราย ลิ้นหัวใจรั่ว 1 ราย ทารก 1 ราย และอยู่ระหว่างมีประจาเดือน 1 ราย

ส่วนจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 10 อันดับแรกในช่วง 4 สัปดาห์ล่าสุด ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร เพชรบุรี ระนอง ระยอง นครศรีธรรมราช และพิจิตร ตามลาดับ  ซึ่งสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในภาพรวมของประเทศไทยปีนี้ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะระบาดรุนแรง แต่จากข้อมูลพบว่ามีอัตราป่วยตายสูงขึ้นจากปกติ โดยเฉพาะในภาคกลางและภาคใต้ที่มีอัตราป่วยตายร้อยละ 0.25 และ 0.26 ตามลาดับ ซึ่งสูงกว่าปกติประมาณ 2 เท่า (อัตราป่วยตายปกติ : 0.1)  


นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า แม้ในช่วงนี้จะยังไม่เข้าสู่หน้าฝนก็ตาม แต่เนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ร้อนสลับฝน จึงอาจเกิดน้ำขังตามภาชนะต่างๆ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลายได้  กรมควบคุมโรค ขอความร่วมมือประชาชนให้ใช้มาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” คือ 1.เก็บบ้านให้สะอาด โปร่ง โล่ง ไม่ให้มีมุมอับทึบ เป็นที่เกาะพักของยุง 2.เก็บขยะ เศษภาชนะรอบบ้าน โดยทำต่อเนื่องสัปดาห์ละครั้ง ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และ 3.เก็บน้ำ สำรวจภาชนะใส่น้ำ ต้องปิดฝาให้มิดชิดหรือปล่อยปลากินลูกน้ำ ป้องกันยุงลายไปวางไข่ เพื่อป้องกัน 3 โรค คือ โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย  

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ได้สั่งการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคทั้ง 12 เขต และสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง  ให้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ และประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ที่จำเป็นแก่ประชาชนทั้งในส่วนของมาตรการและการป้องกันโรค  หากประชาชนหรือคนในครอบครัว โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัวหรือภาวะเสี่ยง มีอาการสงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก เช่นไข้สูงมากโดยฉับพลัน ปวดเมื่อย หน้าตาแดง อาจมีผื่นขึ้นใต้ผิวหนังตามแขนขา ข้อพับ ถ้ามีไข้สูง 2-3 วันไม่หายหรือไม่ดีขึ้น ต้องรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยเร็ว เพื่อรับการวินิจฉัย  ประชาชนสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ “ธัญพร มุ่งเจริญพร” เข้าป้าย

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ ลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย “ธัญพร มุ่งเจริญพร” พลิกชนะ “พรชัย มุ่งเจริญพร” แชมป์เก่าแบบขาดลอย คว้าเก้าอี้มาครอง นั่งนายก อบจ.หญิงคนแรกของจังหวัด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าคึกคัก

ภาพรวมการใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าค่อนข้างคึกคัก มีประชาชนทยอยใช้สิทธิต่อเนื่อง ยังไม่มีรายงานการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ท่ามกลางสายฝน

ชาวนครศรีธรรมราช ตื่นตัวออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. ท่ามกลางสายฝน กกต.เผยภาพรวมครึ่งวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่มีรายงานการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง