สธ.13เม.ย.-กรมสุขภาพจิต หนุนชมรมผู้สูงอายุทั่วประเทศจัดกิจกรรมสร้างสุข 5 มิติ ‘สุขสบาย-สุขสนุก-สุขสง่า-สุขสว่าง-สุขสงบ’ พร้อมปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิตและพึ่งตนเองได้มากที่สุด ปีนี้ตั้งเป้า13,196 แห่ง
น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิตให้สัมภาษณ์เนื่องในวันผู้สูงอายุ ซึ่งตรงกับวันที่ 13 เมษายน ทุกปีว่า ขณะนี้ประเทศไทยเป็นสังคมของผู้สูงอายุ ข้อมูลกระทรวงมหาดไทยในปี 2560 ไทยมีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน10.2 ล้านคน หรือประมาณร้อยละ 15ของประชากรทั้งประเทศ ในปี 2561 นี้ กรมสุขภาพจิต เน้นการส่งเสริมและป้องกันปัญหาสุขภาพจิตผู้สูงอายุ โดยสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมสร้างสุข 5 มิติผ่านชมรมผู้สูงอายุที่ขึ้นทะเบียนในเครือข่ายสมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ทั่วประเทศ ตั้งเป้าให้ได้ร้อยละ 50 หรือจำนวน 13,196 แห่ง และจะขยายเพิ่มให้ครบทุกแห่งในปีหน้านี้ จะทำให้ผู้สูงอายุสุขภาพจิตดีและมีสุขภาพกายดีตามไปด้วยหรือที่เรียกว่าใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว ลดการพึ่งพิงคนในครอบครัว
สำหรับความสุข 5 มิติ เป็นความสามารถที่จำเป็นพื้นฐานของผู้สูงอายุที่จะทำให้มีความสุข ประกอบด้วย
1.สุขสบาย (Happy Health) ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง คล่องแคล่ว ชะลอความเสื่อมและคงสมรรถภาพทางกายให้นานที่สุด โดยออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่เช่นการเดิน รำไทเก๊ก ทำให้ต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 30 นาทีต่อครั้งอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์หรือวันเว้นวัน
2.สุขสนุก (Recreation)มีสัมพันธภาพที่ดีกับเพื่อน พูดคุยกับคนในครอบครัว ทำกิจกรรมที่ทำให้จิตใจแจ่มใส เช่น เล่นกีฬา ดนตรี กิจกรรมนันทนาการต่างๆ จะทำให้อายุยืนกว่าคนที่ไม่มีสังคมถึง 7 ปี
3.สุขสง่า (Integrity)เป็นความรู้สึกพึงพอใจ ภาคภูมิใจ มีคุณค่า เช่นเป็นที่ปรึกษาของครอบครัว ลูกหลาน เป็นจิตอาสา เป็นการให้ที่ไม่หวังผลตอบแทน
4.สุขสว่าง (Cognition )เป็นความสามารถของสมองทั้งด้านความจำ ความคิดอย่างมีเหตุผล โดยอย่าหยุดยั้งที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เช่นเรียนภาษาต่างถิ่น ฝึกคิดเลขในใจบ่อยๆหรือสวดมนต์โดยไม่ต้องอ่านจากหนังสือ จำเบอร์โทรศัพท์คนใกล้ชิด ช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง และ 5.สุขสงบ (Peacefulness) ผู้สูงอายุสามารถเข้าใจและจัดการอารมณ์เพื่อให้เกิดความสงบทางใจ ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น ฝึกสติ ฝึกสมาธิ บริหารจิตอย่างสม่ำเสมอ การศึกษาพบว่าจะมีผลต่อสุขภาพมาก ทำให้ความดันโลหิตลดลง และนอนหลับได้ดี
ทั้งนี้ จะดำเนินการประเมินความสุข รวมถึงคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุทั่วประเทศในเดือนพ.ค.นี้ ซึ่งทำเป็นครั้งแรกในประเทศเพื่อเป็นข้อมูลในการพัฒนาระบบบริการให้สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการของผู้สูงอายุยิ่งขึ้น โดยใช้แบบประเมินสุขภาพจิตผู้สูงอายุฉบับสั้นและเครื่องมือวัดคุณภาพชีวิตขององค์การอนามัยโลกชุดย่อ.-สำนักข่าวไทย