เร่งแก้ปัญหาผู้สูงวัยไทย ไม่มีเงินเก็บ

กรุงเทพฯ 7 ต.ค. -รัฐ-เอกชน ร่วมแก้ปํญหา สังคมสูงวัยไทย ไร้เงินออม โดยพบผู้สูงอายุที่ไม่มีรายได้หลังเกษียณมีสัดส่วนถึง 21.1% และ 30% ไม่มีเงินเก็บเพื่อการเกษียณ


นายวิโรจน์ ตั้งเจริญ นายกสมาคมนักวางแผนการเงินไทย (Thai Financial Planners Association – TFPA) เปิดเผยว่า ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่าประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) แล้วในปี 2567-2568 เนื่องจากมีสัดส่วนประชากรสูงอายุ (ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป) 20% ของประชากรทั้งหมด และพบว่าผู้สูงอายุที่ไม่มีรายได้หลังเกษียณมีสัดส่วนถึง 21.1% และมีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี 84.2% สอดคล้องกับผลสำรวจจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่าคนไทย 30% ไม่มีเงินเก็บเพื่อการเกษียณ และ 60% มีเงินเก็บไม่ถึง 200,000 บาท จากแนวคิดที่ยังไม่ตระหนักถึงการออมเงินไว้ใช้จ่ายในอนาคต หรือขาดความรู้ในเรื่องการวางแผนการเงินและการลงทุน รวมถึงขาดวินัยทางการออม หากไม่เปลี่ยนพฤติกรรมอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม

สมาคมนักวางแผนการเงินไทย จึงได้ร่วมกับกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) จัดการอบรม Workshop การวางแผนการเงินสำหรับ 3 กลุ่มอาชีพ ได้แก่ “ข้าราชการ” “อาชีพอิสระ” และ “พนักงานประจำ” เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการวางแผนการเงินในแต่ละอาชีพ เช่น การวางแผนภาษี การวางแผนประกัน เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมนี้มีผู้เข้าร่วมจาก 3 กลุ่มอาชีพ อายุ 20-60 ปี รวม 145 คน โดย “กลุ่มอาชีพพนักงานประจำ” นักวางแผนการเงิน CFP มีคำแนะนำเพื่อเตรียมตัวเกษียณ ได้แก่
1) การไม่พึ่งพิงรายได้ทางเดียวโดยหากิจกรรมที่ชอบเพื่อสร้างรายได้ 2) ควรทำประกันสุขภาพให้เพียงพอเพื่อรองรับชีวิตหลังการเกษียณ 3) ทำประกันบำนาญเพื่อช่วยจัดการค่าใช้จ่ายคงที่ 4) ศึกษาและวางแผนจัดการภาษีก่อนและหลังเกษียณ และ 5) จัดพอร์ตการลงทุนเพื่อการเกษียณอย่างเหมาะสม ขณะเดียวกันแนะนำให้เริ่มต้นวางแผนการเงินด้วยการทำบัญชีรายรับรายจ่าย ตั้งเป้าหมายเงินออม เก็บเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินอย่างน้อย 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน วางแผนประกันภัยเพื่อปกป้องความเสี่ยงจากค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ไม่ก่อหนี้เกินตัวและรีบแก้ไขเมื่อมีหนี้เกินตัว รวมถึงแยกหนี้ดี เช่น หนี้บ้าน-คอนโดฯ ออกจากหนี้เลวจากการซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็น เริ่มต้นวางแผนเกษียณให้เร็วที่สุด และสุดท้ายคือจัดพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมและหมั่นหาความรู้อยู่เสมอ


ทั้งนี้ ควรวางแผนลดหย่อนภาษีเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย อาทิ กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) นำมาใช้ลดหย่อน ได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ หรือไม่เกิน 200,000 บาท กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ /กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน ลดหย่อนได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ลดหย่อนได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท โดยทั้งหมดนี้นำมาใช้ลดหย่อนรวมกันได้ไม่เกิน 500,000 บาท และกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) นำมาใช้ลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้หรือไม่เกิน 300,000 บาท

นอกจากนี้ หลังจากเกษียณอายุ ควรแบ่งการลงทุนเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. กลุ่มความเสี่ยงต่ำ มีสภาพคล่องสูง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในระยะ 0-3 ปี เช่น เงินฝาก ตราสารหนี้ระยะสั้น คาดหวังผลตอบแทน 0.25-1.5% 2. กลุ่มความเสี่ยงต่ำ-ปานกลาง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในอีก 4-7 ปี เช่น พันธบัตร หุ้นกู้ คาดหวังผลตอบแทน 4% 3. กลุ่มความเสี่ยงปานกลาง-สูง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในช่วงเกินกว่า 7 ปีข้างหน้า เช่น พอร์ตกองทุน คาดหวังผลตอบแทน 6% ซึ่งพอร์ตการลงทุนในกลุ่มที่ 2 และ 3 เมื่อมีอายุถึง 82 ปี และ 86 ปีตามลำดับ ให้ย้ายเงินลงทุนมายังกลุ่มเสี่ยงต่ำทั้งหมดและคงไว้ตลอดชีวิต ส่วน “กลุ่มอาชีพข้าราชการ” พบว่าส่วนใหญ่เข้าใจว่าสวัสดิการที่มีอยู่เพียงพอต่อชีวิตหลังวัยเกษียณแล้ว แต่อาจไม่ได้นึกถึงการปกป้องความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น ไม่ได้ทำประกันชีวิต เพราะเมื่อเสียชีวิตแล้วสวัสดิการที่ได้รับก็จะสิ้นสุดไปด้วย ทำให้ครอบครัวได้รับผลกระทบเนื่องจากขาดรายได้ จึงจำเป็นต้องวางแผนการเงินล่วงหน้า

นอกจากนี้ ควรฝึก 5 นิสัยเพื่อให้เก็บเงินได้รวดเร็วขึ้น ได้แก่ เลี่ยงสร้างหนี้ ตั้งเป้าหมายการออมที่ชัดเจน ตั้งงบประมาณต่างๆ ที่จะใช้ต่อเดือน บันทึกรายรับรายจ่ายอย่างง่าย และใช้เครื่องมือทางการเงินให้ถูกต้อง ตลอดจนควรแบ่งสัดส่วนเงินให้ชัดเจนด้วยเทคนิค “โหล 6 ใบ” ใบแรก แบ่งเงิน 55% เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็น ใบที่สอง 10% เพื่อเป็นเงินเก็บสำรอง ใบที่สาม 10% เพื่อพัฒนาตนเอง ใบที่สี่ 10% เพื่ออิสรภาพทางการเงินโดยนำไปลงทุน เช่น หุ้น กองทุน อสังหาริมทรัพย์ ใบที่ห้า 10% เพื่อให้รางวัลตนเอง และใบที่หก 5% เงินเพื่อการให้


ขณะที่ “กลุ่มอาชีพอิสระ” ซึ่งมีรายได้ไม่แน่นอน แต่มีรายจ่ายถาวร จึงให้เริ่มต้นทำรายรับรายจ่ายล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ปี และให้กำหนดเงินเดือนตนเองเสมือนพนักงานประจำเพื่อให้มีวินัยการเงินมากขึ้น มีการสร้างแผนสำรองเงินสดยามฉุกเฉินระยะเวลา 6 เดือนถึง 1 ปี และออมเงิน 20-40% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย วางแผนการเงินระยะยาวเมื่อต้องใช้เงินก้อนใหญ่ และป้องกันรายจ่ายก้อนใหญ่ด้วยประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง วางแผนเกษียณอายุโดยไม่ละเลยการออมและลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินที่ลดหย่อนภาษีได้ เช่น SSF, RMF นอกจากนี้ ควรเตรียมเงินเพื่อเสียภาษีให้เพียงพอ โดยผู้ที่คาดว่าจะมีรายได้มากกว่า 1.8 ล้านบาท ต้องเตรียมตัวยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และหมั่นทบทวนปรับแผนการเงินอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
“หลายคนเข้าใจผิดว่าการเตรียมความพร้อมเพื่อการเกษียณ เป็นเรื่องของคนอายุมากหรือใกล้เกษียณ แต่การเกษียณแบบมีความสุขต้องอาศัยการวางแผนระยะยาวตั้งแต่เริ่มต้นทำงาน เพราะการวางแผนเมื่อใกล้เกษียณ จะกดดันตัวเองและอาจไม่ทันการณ์อีกด้วย ” นายกสมาคมนักวางแผนการเงินไทยกล่าว
นอกจากนี้ สมาคมฯ เตรียมจัดกิจกรรม Financial Planning Clinic บริการให้คำปรึกษาวางแผนการเงินผ่านระบบออนไลน์กับนักวางแผนการเงิน CFP แบบรายบุคคลแก่ประชาชนที่สนใจ โดยร่วมบริจาคเงิน 500 บาทแก่สภากาชาดไทย ซึ่งเงินบริจาคสามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า เพื่อรับสิทธิ์รับคำปรึกษา ระยะเวลา 1 ชั่วโมง ในวันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2567 แบ่งเป็น 3 รอบ ได้แก่ เวลา 9.00-10.00 น. เวลา 10.15-11.15 น. และเวลา 11.30-12.30 น. รวม 30 สิทธิ์ สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้ – 9 ตุลาคม 2567 หรือจนกว่าสิทธิ์จะเต็ม โดยแนบสลิปเงินบริจาคและเลือกรอบเวลา พร้อมกรอกข้อมูลผ่านแบบฟอร์มที่ https://www.surveymonkey.com/r/9MHV5NS โดยสมาคมฯ จะแจ้งยืนยันการลงทะเบียน และช่องทางเข้าร่วมกิจกรรมทางอีเมลที่ได้ลงทะเบียนไว้ หรือสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.tfpa.or.th หรือ Facebook สมาคมนักวางแผนการเงินไทย

ด้านนายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการ กบข. กล่าวว่า ในปัจจุบันประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ คนไทยมีอายุยืนยาวขึ้น นับว่าเป็นโจทย์ที่สำคัญของ กบข. ที่จะทำให้สมาชิกมีเงินใช้ที่เพียงพอในวัยเกษียณ จึงได้เดินหน้าให้ความรู้การเงินการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือครั้งนี้ สมาชิก กบข. ได้มีโอกาสได้รับข้อมูลการบริหารจัดการเงินอย่างเป็นระบบจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง

นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการ กอช. กล่าวว่า กอช.พร้อมยกระดับชีวิตยามเกษียณ ให้กับกลุ่มอาชีพอิสระให้มีความมั่นคงในชีวิต กอช.เป็นกองทุนภาคสมัครใจ ที่ส่งเสริมการออมในระยะยาวให้กับนักเรียน นักศึกษา ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่มีอายุตั้งแต่ 15 – 60 ปี สามารถออมเงินได้ตามความสมัครใจ ขั้นต่ำตั้งแต่ 50 บาท สูงสุด 30,000 บาทต่อปี และรัฐสมทบสูงสุด 100% แต่ไม่เกิน 1,800 บาทต่อปี และไม่จำเป็นต้องออมเป็นประจำเท่ากันทุกเดือน และ กอช. ยังส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษา เริ่มออมกับกอช. ตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะเมื่อเข้าระบบการทำงาน อาทิ เป็นข้าราชการก็จะมีกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) หรือ พนักงานบริษัทเอกชนมีประกันสังคม ก็จะยังได้รับสิทธิออมเงินต่อเนื่อง จนถึงอายุ 60 ปีบริบูรณ์ และยังออมคู่ขนานได้ เป็นกองทุนที่มีความยืดหยุ่น ที่สำคัญรัฐบาลค้ำประกันผลตอบแทน ให้ในอัตราไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน เฉลี่ย 7 ธนาคาร และยังสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30,000 บาทต่อปี นับว่า เป็นทางเลือกการออมที่คุ้มค่า ผู้ที่สนใจสมัครเป็นสมาชิก กอช. สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น กอช. หรือทางไลน์แอด กอช. @nsf.th เพื่อตรวจสอบสิทธิและสมัครสมาชิก เพียงระบุเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก และหมายเลขโทรศัพท์มือถือของตนเอง หรือสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่สายด่วนเงินออม 02-049-9000.-511- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก ภาคอีสาน และตะวันออก

กทม. 27 ก.ย.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคอีสาน และตะวันออก ส่วนภาคเหนือ และภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนตกหนักบางพื้นที่ คาดพายุ “บัวลอย” ขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนช่วงวันที่ 28-29 ก.ย. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดพิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ จันทบุรี และตราด ส่วนภาคเหนือ และภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่างและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงโดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 […]

สีสันวันมงคล ครม.

26 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีถือฤกษ์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเข้าไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการครั้งแรก ขณะที่ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ละคนถือเคล็ดต่างกันไป สีสันวันมงคล ครม. -สำนักข่าวไทย

จารึกนาม “16 ทหารกล้า” แนวหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา

26 ก.ย. – กองทัพบก จัดพิธีจารึกนาม และสดุดีกำลังพล ผู้สละชีพเพื่อชาติ จากกรณีพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างสมเกียรติ.-สำนักข่าวไทย

รอปูนแข็งตัว 6 ชม. แล้วเทซ้ำ วนไปจนถึงวันอาทิตย์

กทม. 26 ก.ย. – ผู้รับเหมาปรับแผน การเทปูนลงหลุมยักษ์ เป็นการเทตามวงรอบ 6 ชั่วโมง เว้น 6 ชั่วโมง เพื่อให้ปูนแข็งตัว โดยปูนที่เทลงไปก่อนหน้าได้ไปอุดช่องโหว่ในจุดที่จะเสี่ยงให้เกิดดินสไลด์ได้ทั้งหมด 100% แล้ว คาดการเทปูน จะจบตามแผนภายในวันอาทิตย์นี้.-สำนักข่าวไทย