รมว.ศึกษาฯพอใจสาง ปห.ทุจริตกระทรวง

กระทรวงศึกษาฯ 11 เม.ย.-รมว.ศึกษาฯ พอใจผลการตรวจสอบปัญหาทุจริตต่างๆที่เกิดขึ้นในกระทรวงคืบหน้า   


นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบปัญหาทุจริตต่าง ๆที่เกิดขึ้นในศธ.ว่า ขณะนี้ทุกอย่างมีความคืบหน้าไปพอสมควร  ยกตัวอย่าง เช่น กรณีนายวิโรฒ สำรวล อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย เรียกรับเงิน 4 แสนบาท เพื่อแลกกับการรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2560 ที่ประชุมคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดกรุงเทพฯ ที่มีนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด ศธ. เป็นประธาน มีมติเอกฉันท์ไล่ออกจากราชการนายวิโรฒ เรียบร้อยแล้ว 


ส่วนกรณี การตรวจสอบกรณีการก่อสร้าง โครงการสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา  หรืออควาเรียมหอยสังข์  ที่วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ อ.เมือง จ.สงขลาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา คาดว่าจะได้ข้อสรุปหลังสงกรานต์นี้ ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน เป็นเพราะมาตรการปราบปรามทุจริตของรัฐบาลมีความเข้มข้น คนกล้าออกมาร้องเรียน   

ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบการทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตนั้น ขณะนี้คณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงการทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาที่มีนายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการ ศธ.เป็นประธาน  ดำเนินการคืบหน้าไปมาก โดยกำชับว่าให้สืบจนถึงที่สุด ซึ่งต้องชื่นชมเพราะสามารถตรวจสอบจนพบว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีทั้งหมด 1,049 บัญชี ซึ่งนายอรรพลมีประสบการณ์ทำงานด้านการเงินมาก่อน เป็นข้อดีที่ทำให้การสืบข้อเท็จจริงรวดเร็วจึงมอบหมายว่านอกจากรายงานความคืบหน้าการตรวจสอบที่ทำอยู่แล้ว ขอให้รายงานมาตรการในการทำงานของกองทุนมาด้วย ความจริงแล้วถ้าทุกคนทำตามมาตรการและระเบียบ ที่กำหนดไว้ก็ไม่เกิดปัญหา เช่น  มีโอนเงินแล้วมีฝ่ายตรวจสอบ ก็ไม่เกิดปัญหา แต่ก็มาพบว่ามีผู้เกี่ยวข้อง 4 กลุ่ม


นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อว่า ส่วนการนำมาตรการป้องกันและปราบทุจริตในระบบราชการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ดำเนินการกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตกองทุนเสมาฯ นั้น นายอรรถพล รายงานว่ามีหลายรายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมี 2 รายเป็นข้าราชการของ ศธ. ซึ่งอยู่คนละหน่วยงาน ต้องให้ต้นสังกัดเป็นคนดำเนินการ  แต่ไม่ใช่คนในสำนักงานปลัดศธ.โดยมอบให้ นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด ศธ. ดำเนินการ ส่วนที่เป็นระดับเจ้าหน้าที่ เป็นอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)  

นอกจากนี้เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายบุญรักษ์  ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขปัญหาทุจริต ซึ่งที่ผ่านมาได้รายงานตัวเลข ผู้ที่อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง 41 รายและได้ขออนุมัติใช้มาตรการ คสช. ให้ออกจากราชการไว้ก่อนจำนวน กว่า 10 ราย และให้ย้ายออกจากตำแหน่งเดิมด้วยบางส่วน 

ด้านนายบุญรักษ์ กล่าวว่า  สพฐ.ได้ดำเนินการตามมาตรการ คสช. อยู่ 2 ส่วน คือการดำเนินการของสพฐ. ส่วนกลางและแจ้งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) ร่วมกับคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดแต่ละจังหวัดดำเนินการ สำหรับข้อมูลของ สพฐ.ส่วนกลาง กรณีที่มีการตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงและมีการสอบสวนวินัยแล้ว พบว่ามีเข้าข่ายที่จะต้องให้ออกจากราชการไว้ก่อนประมาณ 14-15  ราย ซึ่งกลุ่มนี้มีการสรุปเรื่องจากคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงแล้ว อนาคตต้องถูกตัดสินโทษวินัยอย่างร้ายแรง มีโทษไล่ออกหรือปลดออกจากราชการ โดยสพฐ. ได้เสนอเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อพิจารณาแล้ว ส่วนที่ต้องให้ย้ายออกจากตำแหน่งเดิมไว้ก่อน ที่จำนวน 7 ราย  

ในจำนวนนี้ย้ายออกจากงานเดิมด้วยสาเหตุอื่นไปแล้ว  2 ราย มีผู้ถูกสั่งให้มาประจำ สพฐ.1ราย ซึ่งการสั่งให้ย้ายไปทำหน้าที่อื่นกับการสั่งให้มาประจำ สพฐ. มีความแตกต่างกันคือถ้ามาประจำสพฐ. จะถือว่าไม่ได้ปฏิบัติตามหน้าที่ ต้องถูกลดเงินประจำตำแหน่ง รุนแรงกว่าการให้ช่วยราชการ หรือย้ายออกจากหน้าที่เดิม  ซึ่งกรณีที่จะให้มาประจำที่ สพฐ.จะพิจารณาเฉพาะกรณีที่มีความรุนแรง และพิจารณาว่า มีความตั้งใจในการกระทำความผิดรวมถึง พิจารณาแล้วว่าจะมีผลต่อการสอบสวนในพื้นที่ 

ทั้งนี้คาดว่าคำสั่งดังกล่าวจะออกมาหลังสงกรานต์เพราะมีผู้เข้าข่ายต้องใช้คำสั่ง คสช.รวมแล้ว ประมาณ 23-24 ราย จึงต้องละเอียดรอบคอบในการจัดทำคำสั่ง ซึ่งผู้ที่จะถูกพิจารณาโทษตามคำสั่ง คสช. ครั้งนี้มีทุกระดับที่สพฐ. รับผิดชอบ ไล่ตั้งแต่ผู้อำนวยการสพท. ผู้อำนวยการโรงเรียน ครูและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องต่าง ๆ ถือเป็นการล้างท่อครั้งใหญ่ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เอกอัครราชทูตชี้แจงข้อเท็จจริงยูเอ็น ปมกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

31 ก.ค. – เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ขึ้นเวทียูเอ็น ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ระหว่างการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศว่าด้วยการระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธีและการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ระหว่างการกล่าวถ้อยแถลง เนื่องจากกัมพูชากล่าวพาดพิงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในเวทีดังกล่าว ไทยเข้าร่วมการประชุมโดยมีเป้าหมายร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศในการผลักดันการแก้ปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธีผ่านแนวทางสองรัฐ.-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เผยประเทศไทยฝนลดลง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 31 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดน่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยบริเวณทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง […]

ทบ.จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบกสดุดีทหารกล้า จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ ขอพระราชทานยศทหารเลื่อนขั้นอย่างสมเกียรติ วันที่ 30 ก.ค. 68 กองทัพบกร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและส่วนราชราชการพื้นที่ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารกล้าที่สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จากเหตุการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพของทหารหาญ จำนวน 4 นาย ดังนี้ 1.ส.อ.จิรายุ สิงห์อ้น ตำแหน่งพลลาดตระเวน กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 (ร้อย ลว.ไกล 6) กองพลทหารราบที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ (25 ก.ค.68) ณ วัดตลาดราชมงคล อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พล.อ. ณัฐวุฒิ นาคะนคร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ โดยกองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศทหารเป็นร้อยโท […]

ทบ.ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบก ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน ประชาคมโลกต้องเห็นความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน-โรงเรียน-โรงพยาบาล เร็วๆ นี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ เข้าดูพื้นที่บริเวณจุดปะทะ บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานีว่า จุดที่ฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงไปดูพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร บริเวณจุดที่เคยมีการปะทะกันนั้น เป็นบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี จึงเห็นมีภาพปรากฏถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้อาวุธจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของพื้นที่ทางยุทธการ และบริเวณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายทางทหาร สำหรับฝ่ายไทยมีแผนจะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยฝ่ายไทยจะไม่เน้นการสร้างภาพลวงแบบฉาบฉวย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สิ่งที่จำเป็นจะต้องสื่อถึงประชาคมโลกคือ ความเสียหายต่อบ้านเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ฝ่ายทหารกัมพูชาจงใจพุ่งเป้าโจมตีไปยังเป้าหมายเหล่านั้น จนมีพลเรือน ประชาชน เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ลึกไกลเข้ามาภายในประเทศไทย และห่างจากพื้นที่สู้รบเข้ามาในไทยไกลมากถึง 10-30 กิโลเมตร พล.ต.วินธัย กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย รวมถึงขัดต่อหลักปฏิบัติทางทหารตามกฎหมายสากล และหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจตนาละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ที่ห้ามการโจมตีพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ กองทัพบกไทยขอยืนยันอีกครั้งว่า เราปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลักเท่านั้น และยึดมั่นในกติกาสากล โดยขอย้ำว่า ฝ่ายไทยไม่ได้รุกรานใคร แต่เรามีสิทธิชอบธรรมในการปกป้องประชาชนและผืนแผ่นดินของเรา.-313.-สำนักข่าวไทย