กรมศุลกรกร 28 มี.ค. – นายกฯ กำชับกรมศุลกากรเร่งแก้ปัญหาทุจริต สั่งเอกซเรย์ตู้สินค้าร้อยเปอร์เซ็นต์ พอใจหลังคุมเข้มชายแดน ปราบยางพาราเถื่อน ดันราคาพุ่ง 100 บาท/กิโลกรัม อธิบดีกรมศุลฯ สนองนโยบายคุมเข้มนำข้า-ส่งออกสินค้า
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบนโยบายให้กับผู้บริหารกรมศุลกากร กล่าวย้ำว่าที่ผ่านมากรมศุลกากรมีปัญหาทุจริตเยอะมาก ทั้งหมูเถื่อน ยางพารา รัฐบาลจึงให้ความสำคัญอย่างมากกับปราบปรามทุจริต โดยจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาดในรัฐบาลนี้ จึงต้องการปรับเพิ่มประสิทธิภาพ ด้วยการปรับระบบฐานข้อมูลนำเข้าส่งออก เพื่อจับตาดูสิ่งผิดปกติ ที่มีความเสี่ยง หล่อแหลมต่อการทำผิดกฎหมาย หลังจากกรมศุลฯ ร่วมมือกับหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะยางพาราเถื่อน ทำให้ราคายางปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง พุ่งถึง 100 บาทต่อกิโลกรัม นับว่าเกิดประโยชน์ต่อชาวสวนยางอย่างมาก สำหรับความผิดในอดีต เช่น หมูเถื่อน ต้องพิสูจน์และให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้ที่และทุกฝ่าย
นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า กรมศุลกากรพร้อมสนองนโยบายนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย 1.การแก้ปัญหาทุจริต คอร์รัปชั่น เพราะเป็นหน่วยงานหลักดูแลนำเข้า-ส่งออกสินค้าของประเทศ จึงต้องนำระบบเทคโนโลยีมาช่วยการทำงาน เพื่อความโปร่งใส ลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ 2.การคุมเข้มสินค้าเถื่อน สินค้าที่มีความเสี่ยง ลักลอบนำเข้าตามแนวชายแดน 3.การเอกซเรย์ตู้สินค้าเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ การนำระบบ GPS มาใช้ติดตามการขนส่งสินค้า เพื่อลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ จากปัจจุบันเอกซเรย์ร้อยละ 30 ของสินค้านำเข้า-ส่งออก จึงต้องศึกษาดูว่า ต้องจัดซื้อเครื่องเอกซเรย์เพิ่มเติมอย่างไร และกระทบต่อการอำนวยความสะดวกการนำเข้า-ส่งออกสินค้าของเอกชนอย่างไร แม้การเอกซเรย์ใช้เวลาไม่นาน แต่เมื่อสินค้าผ่านเข้าออก จำนวนมาก จะทำให้ขั้นตอนส่งออก นำเข้าล่าช้าอย่างไรบ้าง
4.การปรับปรุงระบบ ออกใบอนุญาต ให้มีศูนย์รวมเป็นจุดเดียว เมื่อเอกชนแจ้งข้อมูลส่งออกสินค้า จากนั้นจะส่งข้อมูลไปยังหลายหน่วยงานผู้ออกใบอนุญาต เพื่อทำได้ในจุดเดียว เตรียมนำร่อง สินค้าเกษตร 7 ชนิด ในท่าเรือแหลมฉบัง เช่น สินค้าเกษตรลำไย ลิ้นจี่ ทุเรียน มันสำปะหลัง เพื่ออำนวยความสะดวกการส่งออกได้อย่างรวดเร็ว 5.การปรับปรุงด่านชายแดน ทำอย่างเหมาะสมตามขนาดเศรษฐกิจของแต่ละชายแดน ไม่หรูหราสิ้นเปลืองมากเกินไป นอกจากนี้ กรมศุลกรกร พร้อมเดินหน้าผลักดันการแก้ไขกฎหมาย การนำเข้าสินค้าทางไปรษณีย์จากต่างประเทศ จากเดิมราคาสินค้าไม่เกิน 1,500 บาท ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม เพราะสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก และมีความเสี่ยงหลากหลายประเภท จึงต้องปรับให้ผู้ขายสินค้าเป็นผู้นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มแทนผู้ซื้อสินค้าและปรับฐานราคาให้ต่ำกว่า 1,500 บาท หลังสินค้าจากจีนและประเภทต่างๆเข้ามตีตลาดจำนวนมาก
อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาหมูเถื่อน ขณะนี้ดีเอสไอ และ ป.ป.ช.ดำเนินการอยู่ กรมศุลกากร พร้อมส่งข้อมูลให้อย่างเต็มที่ หลังจากที่ผ่านมาได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงไปแล้ว และได้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยเพิ่มเติม โดยสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง มาประจำศุลกากร ส่วนกลาง หากไม่พบความผิด พร้อมย้ายกลับไปที่เดิม.-515 -สำนักข่าวไทย