ส่งออกรถยนต์ไทยเฮ !! ออสเตรเลียจ่อเว้นภาษีนำเข้ารถยนต์ใหม่

นนทบุรี  10 เม.ย. – พาณิชย์เผยออสเตรเลียเตรียมลดอายุการใช้งานรถยนต์และยกเลิกภาษีนำเข้ารถยนต์ใหม่ปี 62-63 ชี้ส่งผลดีส่งออกรถยนต์ไปออสเตรเลียเพิ่มขึ้น


นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า รัฐบาลออสเตรเลียกำลังพิจารณายกเลิกภาษีนำเข้ารถยนต์ใหม่ เพื่อให้รถยนต์ที่มีสมรรถนะที่ดีและมีความปลอดภัยในระดับราคาที่ชาวออสเตรเลียสามารถซื้อได้ เพื่อสร้างความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยจะเสนอในแผนปีงบประมาณ 2562-2563  โดยการพิจารณาข้อเสนอดังกล่าว มีความเห็นจากสมาคม Australian Automobile Association (AAA) ที่ขอให้ภาครัฐพิจารณาปรับลดอายุการใช้งานของรถยนต์ทั่วประเทศลงเพื่อความปลอดภัย ลดการบาดเจ็บ และเสียชีวิตของผู้ขับขี่บนท้องถนน และลดระดับมลพิษในอากาศ 

อย่างไรก็ตาม กรมฯ มองว่าไทยมีโอกาสส่งออกรถยนต์ไปออสเตรเลียเพิ่มขึ้น หลังรัฐบาลออสเตรเลียเตรียมพิจารณาอนุมัติแผน โดยปัจจุบันอายุการใช้งานรถยนต์ในออสเตรเลียเฉลี่ย 10 ปี หากลด 1 ปี จะช่วยชีวิตผู้ขับขี่เพิ่มขึ้น 1,300 ราย ขณะเดียวกันสมาคม AAA ยังเสนอให้ยกเลิกภาษีนำเข้ารถยนต์ร้อยละ 5 และภาษีรถยนต์หรูร้อยละ 33  แม้จะทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้จากการเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์มูลค่า 2,100 ล้านเหรียญออสเตรเลีย และภาษีรถยนต์หรู มูลค่า 2,800 ล้านเหรียญออสเตรเลีย แต่จะช่วยให้รัฐบาลประหยัดงบประมาณมูลค่ากว่า  3,300 ล้านเหรียญออสเตรเลียในการจัดการกับอุบัติเหตุบนท้องถนนและลดระดับการปล่อยมลพิษในอากาศ


ทั้งนี้ รัฐบาลออสเตรเลียเห็นด้วยกับข้อเสนอของสมาคม  AAA เพราะก่อให้เกิดความคุ้มค่าและประหยัดงบประมาณ เมื่อเทียบกับการสูญเสียรายได้ของรัฐบาล เนื่องจากรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ จะมีการติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นอุปกรณ์มาตรฐานภายในรถยนต์ โดยเฉพาะระบบควบคุมความเร็ว ระบบควบคุมทิศทางการเดินรถในช่องจราจร ระบบเตือนการเข้าใกล้รถคันอื่น และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ 

“หากรัฐบาลออสเตรเลียพิจารณาอนุมัติแผนการปรับลดอายุการใช้งานรถยนต์และยกเลิกภาษีนำเข้ารถยนต์จริง จะเกิดประโยชน์ต่อไทยในการส่งออกรถยนต์ไปยังออสเตรเลียเพิ่มขึ้น เพราะราคารถยนต์ใหม่จะถูกลง กระตุ้นให้เกิดความต้องการซื้อรถยนต์คันใหม่ และจะทำให้มีความต้องการนำเข้าจากไทย ซึ่งปัจจุบันเป็นแหล่งนำเข้าอันดับ 2 รองจากญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น” นางจันทิรา กล่าว

อย่างไรก็ตาม ไทยอาจจะได้รับผลกระทบบ้าง โดยเฉพาะการส่งออกชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ เพราะหากชาวออสเตรเลียหันไปซื้อรถยนต์ใหม่มากขึ้น แทนการซ่อมแซมและใช้งานรถเก่า ก็จะทำให้การนำเข้าชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์จากไทย ซึ่งเป็นแหล่งนำเข้าอันดับ 4 รองจากสหรัฐ  จีน และญี่ปุ่นลดลง แต่ในด้านการส่งออกอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์เพื่อความปลอดภัย คาดว่าไทยจะยังคงส่งออกได้เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการนำไปใช้กับรถยนต์ใหม่


สำหรับสถิติการส่งออกสินค้ารถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบของไทย ไปตลาดโลก ปี 2560 มีมูลค่า 914,388 ล้านบาท ส่งออกไปยังตลาดหลัก ได้แก่ อันดับ 1.ออสเตรเลีย 2.ฟิลิปปินส์ 3.อินโดนีเซีย 4.ญี่ปุ่น 5.จีน  ทั้งนี้ ตลาดออสเตรเลียมีความสำคัญเป็นอันดับ 1 โดยมูลค่าสินค้ารถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สูงถึง 196,135 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 จากปี 2559.-สำนักข่าวไทย

         

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว