กรุงเทพฯ 10 เม.ย. – สำนักงานสถิติฯ หนุนขยายอายุทำงาน รองรับไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมูบรณ์ปี 64 เพื่อไม่ให้เป็นภาระลูกหลาน
นายภุชพงค์ โนดไธสง ผู้อำนวยการ สำนักงานสถิติแห่งชาติ กล่าวว่า ปี 2564 ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ เพราะจะมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปถึงร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด และปี 2574 ไทยจะเข้าสู่สังคมสูงวัยระดับสุดยอด เพราะจะมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปถึงร้อยละ 28 ของประชากรทั้งหมด
ทั้งนี้ จากการสำรวจประชากรไทย 67.6 ล้านคนปี 2560 เป็นชาย 33 ล้าน หญิง 34.6 ล้านคน ปี 2560 มีผู้สูงอายุทำงาน 3.9 ล้านคน หรือร้อยละ 35.1 ของผู้สูงอายทั้งหมด ส่วนใหญ่ประกอบธรกจส่วนตัว โดยไม่มีลูกจ้าง สำหรับ 5 อาชีพผู้สูงอายุส่วนใหญ่ทำ ได้แก่ การเกษตร งานบริการและจำหน่ายสินค้า อาชีพขั้นพื้นฐาน ช่างฝีมือ และด้านเครื่องจักรและประกอบชิ้นส่วน โดยให้เหตุผลว่าสุขภาพยังแข็งแรง มีแรงทำงาน ต้องหาเลี้ยงครอบครัวหรือตนเอง และเป็นอาชีพประจำไม่มีผู้ดูแลแทน
ขณะที่แหล่งรายได้หลักของผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่ร้อยละ 34.7 มาจากบุตรมากที่สุด รองลงมาร้อยละ 31 มาจากการทำงานของผู้สูงอายุ และได้รับเบี้ยยังชีพจากราชการ เฉลี่ยผู้สูงอายุชายมีรายได้ต่อปีกว่าผู้สูงอายุหญิง ด้านสุขภาพโดยรวม ส่วนใหญ่ร้อยละ 43.2 ตอบว่าสุขภาพปานกลาง หรือปกติ ร้อยละ 40 ประเมินว่าตนเองมีสุขภาพดี นอกจากนี้ ผู้สูงอายุไทยยังคงได้รับสิทธิ์สวัสดิการรักษาพยาบาลถึงร้อยละ 99.2 มาจากบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า สิทธิ์ข้าราชการหรือข้าราชการบำนาญ และสิทธิ์ประกันสังคมหรือกองทุนเงินทดแทน มีเพียงร้อยละ 0.8 ไม่มีสวัสดิการรักษาพยาบาล ทั้งนี้ ปี 2560 ผู้สูงอายุไทยอยู่ลำพังคนเดียวสูงขึ้นร้อยละ 10.8
สำหรับอัตราการพึ่งพิงปี 2560 ประชากรวัยทำงาน 100 คน ต้องรับภาระประชากรสูงอายุและวัยเด็กถึง 51 คน และคาดว่าปี 2570 จะเพิ่มเป็น 64 คน โดยสังคมไทยควรจะต้องเตรียมรับมือสถานการณ์ดังกล่าว เช่น ผู้สูงอายุต้องมีการดูแลสุขภาพและการกิน ส่งเสริมอาชีพและกิจกรรมทางสังคม ปรับสภาพแวดล้อมที่พักอาศัยและบริการสาธารณะที่เอื้อต่อผู้สูงอายุ รวมทั้งขยายอายุการทำงานให้มากกว่า 60 ปี เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้ที่มีอายุ 50-59 ปี ควรเตรียมความพร้อมก่อนเป็นผู้สูงวัยในอนาคต เพื่อไม่เป็นภาระกับลูกหลาน และควรจะมีดูและประชากรวัยเด็กให้มีคุณภาพในอนาคต.-สำนักข่าวไทย