รัฐบาลเดินหน้ารับมือสังคมสูงวัย หนุน “เดินดีไปด้วยกัน”

ทำเนียบ 2 พ.ค.-รัฐบาลเดินหน้ารับมือสังคมสูงวัย หนุนโครงการ “เดินดีไปด้วยกัน” ลดเสี่ยงกระดูกหักในผู้สูงอายุ

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถิติทางทะเบียนประชากรไทยก้าวเข้าสู่ “สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์” โดยในปี 2565 จำนวนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปมีมากถึง 12.1 ล้านคน หรือ 18.3% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวส่งผลให้ปัญหาสุขภาพในกลุ่มผู้สูงอายุ โดยเฉพาะการพลัดตกหกล้มที่นำไปสู่ภาวะกระดูกหัก เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะกรณีกระดูกสะโพกหักที่เป็นสาเหตุสำคัญของความพิการและอัตราการเสียชีวิตที่สูงถึง 30 – 50% ภายใน 1 ปี หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ทั้งนี้ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า จำนวนผู้ป่วยกระดูกสะโพกหักในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2549 มีจำนวน 23,426 ราย และในปี 2568 เพิ่มขึ้นเป็น 34,246 ราย และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสูงถึง 56,443 รายในปี 2593 ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเป็นระบบ


นายคารม กล่าวว่า เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ร่วมกับสมาคมออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) บริษัท กรุงไทยคอมพิวเตอร์เซอร์วิสเซส จำกัด และภาคีเครือข่าย ได้ดำเนินโครงการ “เดินดีไปด้วยกัน” ซึ่งมุ่งเน้นการป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการติดตามสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ผ่านระบบ “กระเป๋าสุขภาพ” บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และ LINE @NHSO ได้ถูกนำมาใช้ เพื่อติดตามสุขภาพของผู้สูงวัยอย่างต่อเนื่อง ด้วยเทคโนโลยีของระบบเก็บข้อมูลโครงการต้นแบบเพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบในการเฝ้าระวังและป้องกันกระดูกหักบริเวณรอบข้อสะโพกในผู้สูงอายุไทย และประเมินผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ทำให้สามารถประเมินความเสี่ยงได้อย่างแม่นยำ และวางแผนป้องกันการพลัดตกหกล้มได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับผลการดำเนินโครงการในพื้นที่นำร่อง 11 จังหวัด 1 เขต พบว่าอัตราการล้มใหม่และล้มซ้ำ ลดลง 10% อัตราการเสียชีวิต 1 ปีหลังกระดูกสะโพกหักและได้รับการผ่าตัดเหลือเพียง 15% มีผู้สูงอายุเข้าถึงมาตรการประเมินความเสี่ยงและการติดตาม 70% ของพื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการ นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยเฉพาะการป้องกันและลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุที่ป้องกันได้ พร้อมย้ำว่าการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการดูแลสุขภาพจะเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศอย่างยั่งยืนในยุคสังคมสูงวัยด้วย.-314.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งความผู้ว่าสตง.

2 พิธีกรดังเข้าแจ้งความกล่าวโทษผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.ถล่ม

สองพิธีกรชื่อดัง เข้าแจ้งความกล่าวโทษ ผู้ว่าฯ สตง. และอดีตผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม แต่ไม่มีใครรับผิดชอบ มองอาจไม่ชอบมาพากล หวั่นเวลาผ่านไปเอาผิดใครไม่ได้

ก้อนปูนตกใส่รถ

กทพ. แจงก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง มีคนโยนลงมาจากสะพานลอย

กทพ. ชี้แจงกรณี ก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง ไม่ได้เกิดจากการกระเทาะของโครงสร้างทางพิเศษบูรพาวิถี แต่มีผู้โยนลงมาจากสะพานลอย จ่อประสานตำรวจตามตัวดำเนินคดี

ปล่อยกู้ดอกโหด

บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยมหาโหด 1,825% ต่อปี

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้เฉพาะผู้หญิง คิดดอกเบี้ยมหาโหดร้อยละ 1,825 ต่อปี ไม่จ่ายโดนข่มขู่ประจานไม่เลือกหน้า

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วโจรชิงทอง 102 บาท กลางห้างดัง อ.แม่สอด จ.ตาก

รวบแล้วโจรสวมชุดไรเดอร์บุกเดี่ยวจี้ชิงทอง 102 บาท จากร้านทองในห้างดัง อ.แม่สอด จ.ตาก ขยายผลตามรวบภรรยาได้ที่บ้านพักใน อ.เมือง จ.ตาก

ติดเชื้อแอนแทรกซ์

มุกดาหารพบผู้ป่วยเข้าข่ายติดเชื้อแอนแทรกซ์เพิ่มอีก 3 คน

มุกดาหารพบผู้ป่วยเข้าข่ายติดเชื้อแอนแทรกซ์เพิ่มอีก 3 คน และมีผู้สัมผัส 377 คน หลังพบผู้เสียชีวิตรายแรกในรอบหลายปี ส่วนที่เลย ชาวบ้านผวา พบวัว 3 ตัว ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ

โลหะในเหรียญ 10 บาท ไม่ใช่ทองเหลือง การปลอมแปลงมีโทษ

กรมธนารักษ์ แจงโลหะในเหรียญ 10 บาท ไม่ใช่ทองเหลือง แต่เป็น “อลูมิเนียมบรอนซ์” หลังโซเชียลแห่แชร์นำไปทำเป็นแหวนและสร้อยคอ ย้ำการปลอมแปลงเหรียญกษาปณ์มีโทษ

“อนุทิน” รับคำขอโทษผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี ยันที่ปรึกษาชุดนี้ยกเลิกแล้ว

“อนุทิน” รับคำขอโทษผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี ตั้งคนจีนนั่งที่ปรึกษา ลั่นหลังจากนี้คงไม่มีใครทำเรื่องเช่นนี้อีก ยันที่ปรึกษาชุดนี้ยกเลิกแล้ว ย้ำไม่มีผลกระทบงบประมาณ ชี้ไม่สามารถเบิกจ่ายอะไรได้