นนทุบรี 5 เม.ย. – พาณิชย์เผยยอดใช้จ่ายบัตรสวัสดิการผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐ ก.พ.สูงเกือบ 3,000 ล้านบาท เตรียมเพิ่มร้านธงฟ้าประชารัฐพื้นที่ยอดขายกระจุกตัว
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางส่งตัวเลขการใช้บัตรสวัสดิการประชารัฐที่ร้านธงฟ้าประชารัฐเดือนกุมภาพันธ์ 2561 พบว่า การใช้จ่ายผ่านบัตรสูงถึงเกือบ 3,000 ล้านบาท ผ่านร้านค้าเกือบ 20,000 แห่งในระบบ โดยยอดใช้จ่ายต่อร้านเฉลี่ยเดือนละ 160,000 บาท ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง และมั่นใจว่ามาตรการนี้จะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างยั่งยืน พร้อมเดินหน้าต่อเปิดร้านให้ได้ถึง 40,000 ร้านในปีนี้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ให้ช่วยเพิ่มจีดีพีได้อย่างน้อยร้อยละ 0.7
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เมื่อช่วงต้นปีกระทรวงพาณิชย์ประเมินว่าโครงการธงฟ้าประชารัฐส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจปีละ 101,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.72 ของจีดีพี โดยคิดจากประมาณการว่าปี 2561 จะมียอดใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 35,400 ล้านบาท ซึ่งการใช้จ่ายเงินผ่านบัตรจะมีส่วนทั้งทางตรงและทางอ้อมช่วยให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายนำเงินไปหมุนเวียนในพื้นที่ชุมชนและเศรษฐกิจฐานราก คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 75,900 ล้านบาทต่อปี รวมแล้วทั้งหมดจะเพิ่มปริมาณเงินที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจประมาณ 101,000 ล้านบาทต่อปี หรือประมาณร้อยละ 0.72 ของจีดีพี หากปีนี้ขยายร้านได้เพิ่มอีกเป็น 40,000 ร้าน มั่นใจว่าจะถึงเป้าหมายดังกล่าวแน่นอน เพราะประชาชนส่วนใหญ่ใช้วงเงินในบัตรเต็มจำนวน
ทั้งนี้ การศึกษาของสำนักงาน นโยบายและยุทธศาสตร์การค้าเสนอให้ปรับปรุงบางจุดของมาตรการดังกล่าวเพิ่ม โดยเฉพาะประเด็นที่พบการกระจุกตัวของการใช้จ่ายในบางอำเภอ ซึ่งอาจจะเกิดจากการมีร้านไม่เพียงพอในเขตนั้น หรือมีร้านใหญ่มากที่ดึงลูกค้าไปจากร้านอื่นในละแวกเดียวกัน ซึ่งจะเร่งหาสาเหตุ ถ้าหากเกิดจากการมีร้านไม่เพียงพอก็จะเร่งให้เปิดร้านเพิ่มขึ้น และใช้รถธงฟ้า Mobile เข้าไปเสริมก่อนในระยะที่ร้านยังไม่พอ นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้มีการสำรวจยอดขายของร้านธงฟ้าที่ไม่ผ่านเครื่องเพิ่ม เพื่อจะได้กระจายร้านและของที่ซื้อให้ถูกต้องที่สุด รวมทั้งให้สำรวจผู้บริโภคว่ามีการใช้จ่ายนอกเขตที่ลงทะเบียนมากน้อยเพียงใด จะได้เข้าใจถึงความต้องการว่าคนที่ใช้บัตรส่วนใหญ่ซื้อของในท้องถิ่นหรือใช้ที่จังหวัดอื่น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ข้อมูลที่ได้จากกรมบัญชีกลางเป็นพื้นฐานที่ดีในการเริ่มศึกษาแล้ว แต่จะขอข้อมูลเพิ่มจากธนาคารกรุงไทยที่เป็นผู้ติดตั้งเครื่องรูดบัตรด้วย เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สมบูรณ์มากขึ้นจะได้กำหนดนโยบายถูกต้องและเป็นประโยชน์มากที่สุด แต่มั่นใจว่ารัฐบาลเดินมาถูกทางแล้วในการ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากระยะต่อไป นอกจากจะขยายจำนวนร้านให้เข้าถึงประชาชนมากที่สุดแล้ว จะเร่ง การนำสินค้าจากท้องถิ่นเข้าร้านธงฟ้าประชารัฐมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยเศรษฐกิจฐานรากได้ ทั้งด้านการกระจายรายได้และการช่วยลดค่าครองชีพให้พี่น้องประชาชน
นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า มูลค่าการใช้จ่ายผ่านบัตรธงฟ้าประชารัฐเดือนกุมภาพันธ์ 2561 อยู่ที่ 2,980 ล้านบาท ผ่าน 18,545 ร้านค้า มียอดการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อร้านต่อเดือนที่ 160,705.90 บาท โดยมีอำเภอที่พบว่ามีการกระจุกตัวของยอดขายผ่าน เครื่องอีดีซีใน 14 เขตทั่วประเทศ ซึ่งบางอำเภอมีร้านค้าเพียงไม่กี่แห่ง หรือแม้แต่ในกรุงเทพฯ มีอำเภอพระโขนงที่มีร้านค้าเพียง 2 แห่ง ขณะเดียวกันมีหลายอำเภอที่มียอดขายรวมกันเกิน 10 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นอำเภอเมืองของจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งพบว่ามีร้านค้ามากอยู่แล้ว จึงคงไม่ต้องเร่งเพิ่มร้าน จึงเสนอให้กระทรวงฯ พิจารณาเพิ่มร้านธงฟ้าประชารัฐในเขตอำเภอที่มีการกระจุกตัวของการใช้จ่ายก่อนเป็นอันดับแรก แต่ต้องดูรายละเอียดด้วยว่าเกิดจากร้านไม่พอหรือมีร้านที่มีขนาดใหญ่ใน พื้นที่ นอกจากนี้ จะมีการศึกษาหรือสำรวจข้อมูลอื่น ๆ เพิ่ม เพื่อให้การกำหนดมาตรการบัตรสวัสดิการร้านธงฟ้าประชารัฐช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้ได้มากที่สุด.-สำนักข่าวไทย