ชลบุรี 4 เม.ย.-คณะทูต จาก 8 ประเทศ ร้องตำรวจพัทยาอย่าจับนักท่องเที่ยวดูดบุหรี่ไฟฟ้า เพราะยังไม่ทราบกฎหมายแน่ชัด เห็นมีขายทั่วไป หากถูกจับ ต้องใช้เวลาสู้คดีนาน ด้านเมืองพัทยาเตรียมติดป้ายประชาสัมพันธ์
8 คณะฑูตเข้าชี้แจงปัญหาผู้บริหารสงสัยบุหรี่ไฟฟ้าไทยถูกกฎหมายหรือไม่ ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา พล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี นายกเมืองพัทยา, นายอภิชาติ วีรปาล รองนายกเมืองพัทยา, พ.ต.ท. ธวัชชัย หนองบัว รอง ผกก.ตม.จังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับคณะทูตจากสาธารณรัฐคาซัคสถาน, บาห์เรน, ภูฎาน, ลิเบีย, ไนจีเรีย, โอมาน, สาธาณรัฐสโลวัก และติมอร์ เลสเต โดยการนำของเอกอัครราชทูต ราอูชัน เยสบูลาโตวา จากสาธารณรัฐคาซัคสถาน ประจำราชอาณาจักรไทย
สืบเนื่องจากทางคณะทูต มีแนวคิดที่จะประสานความสัมพันธ์ระหว่างเมืองพัทยาและสถานทูตต่างๆในประเทศ ในเรื่องการท่องเที่ยว ที่ประชุมได้หยิบหยกปัญหาในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวแต่ละประเทศที่ได้รับผลกระทบและมีการร้องเรียนไปยังสถานทูตเพื่อนำมาถกเพื่อหาแนวทางออกร่วมกัน อาทิ นักท่องเที่ยวไม่ได้รับความสะดวกในการพกพาสปอร์ตที่จะต้องนำติดตัวอยู่ตลอดเวลา การตรวจค้นนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในประเด็นที่ทางเอกอัครทูตอับดุล ละ ซาเรอเมด อัลไมมานี จากประเทศโอมาน ได้พูดคุยถึงปัญหาจากกรณีนักท่องเที่ยวจากโอมานได้ถูกจับกุมในหลายครั้ง ปัญหาสำคัญอาจเกิดมาจากล่ามแปลภาษาที่นำมาแปลภาษาให้กับนักท่องเที่ยวอาจยังไม่มีความเชี่ยวชาญโดยตรงทำให้ประเด็นการถูกจับกุมคลาดเคลื่อน นอกจากนี้ ยังมีในกรณีได้รับเรื่องร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวล่าสุดเกี่ยวกับกรณีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวที่เมืองพัทยายังไม่ทราบกฎหมายของประเทศไทยอย่างแน่ชัด กรณีดูดบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทยและยังเห็นว่ามีขายอยู่ตามสถานที่ทั่วไปได้ จนกระทั่งนักท่องเที่ยวโดนจับกุมจนทำให้ต้องเสียเวลาในการต่อสู้คดีเป็นเวลานานหลายเดือน จึงอยากให้ผ่อนผันในการจับกุมกรณีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่ทราบถึงกฎหมาย หรือจะแค่เป็นการว่ากล่าวตักเตือนเพราะนักท่องเที่ยวบางคนเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองพัทยาเพียงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น
ซึ่งจากปัญหาทั้งหมดทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ละหน่วยงานได้มีการแจงต่อเอกอัครราชทูตของแต่ละประเทศ อาทิ เรื่องของการพกพาสปอร์ตในประเทศไทยถือว่าพาสปอร์ตคือบัตรประจำตัวประชาชนใบหนึ่งที่ทุกคนต้องมีเมื่อมีการเรียกตรวจเพื่อยืนยันตัวตนของทุกคนซึ่งในกรณีมีการอนุโลมให้นักท่องเที่ยวแต่ละคนสามารถถ่ายสำเนาพาสปอร์ตพกติดตัวแทนพกพาสปอร์ตตัวจริงได้อยู่แล้ว ส่วนในปัญหาด้านอื่นนอกเหนือจากความรับผิดชอบของที่ประชุมจะดำเนินการได้ จะรับไปพิจารณาเพื่อหาแนวทางแก้ไขร่วมกันอีกครั้งเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาต่อไป ทั้งนี้ในเบื้องต้น ทางเมืองพัทยาจะทำป้ายสัญลักษณ์บอกกล่าวถึงสิ่งผิดกฎหมายในหลากหลายภาษา เพื่อไปติดตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ในเบื้องต้นก่อน.-สำนักข่าวไทย