กรุงเทพฯ 4 เม.ย.- “ศรีวราห์”ยันสำนวนสั่งฟ้อง”เปรมชัยล่าสัตว์ป่า”ไม่อ่อน แจงปมอัยการภาค 7สั่งไม่ฟ้อง 5 ข้อหาเตรียมทบทวนจะมีความเห็นแย้งหรือไม่
พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผย หลังอัยการ ภาค 7 มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด มหาชน ในข้อหาฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต /ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ /ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์ป่าหรือจับสัตว์ป่าหรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ /ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และ ร่วมกันทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร โดยพนักงานสอบสวนภูธรภาค 7 เตรียมทบทวนจะมีความเห็นแย้งหรือมีความเห็นพ้องตามอัยการ จากนั้นจะเป็นดุลยพินิจของอัยการ ในการพิจารณา เพราะพ้นอำนาจการสอบสวนไปแล้ว ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติม มั่นใจตำรวจทำสำนวนครบถ้วนอย่างละเอียด เห็นได้จากอัยการ มีความเห็นสั่งฟ้อง นายเปรมชัย และพวกในข้อหาหลัก แม้จะมีบางข้อหาที่สั่งไม่ฟ้องและก็ไม่ได้ส่งกลับมาให้ตำรวจสอบสวนเพิ่มเติม จึงแสดงให้เห็นว่าสำนวนคดีมีความแน่นหนาพอ
ส่วนประเด็นที่อัยการสั่งไม่ฟ้องคดีร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต กับนายเปรมชัยนั้น พลตำรวจตรีธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ยืนยันว่า ปืนที่พบเป็นปืนที่มีทะเบียน และมีชื่อนายเปรมชัย เป็นผู้ครอบครองถูกต้องตามกฏหมาย และในชั้นพนักงานสอบสวน ก็มีความเห็นสั่งไม่สั่งฟ้องไปตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
สำหรับข้อหาข้อหาที่อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องนายเปรมชัยและพวกคือ ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในตัวหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต / ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ / ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ / ร่วมกันมีไว้ในครอบครอง ซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ / ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น นำพาเอาไปเสียหรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากของสัตว์ป่าอันได้มากระทำการผิดกฎหมาย และ ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ .-สำนักข่าวไทย