โคลอมเบีย 2 ต.ค.- อาร์เจนตินา คว้าแชมป์ฟุตซอลชิงแชมป์โลกสมัยแรกในประวัติศาสตร์ หลังเฉือนชนะ รัสเซีย 5-4 ส่วนอิหร่าน ตัวแทนจากเอเชีย คว้าอันดับ 3
ฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2016 ที่ประเทศโคลอมเบีย แข่งขันวันสุดท้าย เตะที่เมืองคาลิทั้งสองคู่ เริ่มต้นที่นัดชิงอันดับ 3 อิหร่าน เสื้อสีขาว อันดับ 6 ของโลก พบกับ โปรตุเกส อันดับ 7 ของโลก ช่วงท้ายครึ่งแรกเป็น โปรตุเกส ได้สองประตูรวด จากคาร์ดินัล นาทีที่ 20 ทั้งสองประตู จบครึ่งแรกโปรตุเกสนำ 2-0 ส่วนครึ่งหลัง อิหร่าน ฮึดสู้ ก่อนมาได้ 2 ประตู จาก อัฟชิน คาเซมี นาทีที่ 25 และ มาดี จาวิด นาทีที่ 35 จบช่วงเวลาปกติ อิหร่าน เสมอ โปรตุเกส 2-2 ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที ซึ่งก็ยังเสมอกัน ทำให้ต้องดวลจุดโทษตัดสิน ซึ่ง อิหร่านแม่นกว่า ชนะไป 4-3 คว้าอันดับ 3 ไปครอง ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีม เหนือกว่าอันดับ 4 เมื่อปี 1992 ที่ฮ่องกง
ส่วนคู่ชิงชนะเลิศ “หมีขาว” รัสเซีย เสื้อสีแดง พบกับ อาร์เจนตินา ที่มาในชุดเก่ง ฟ้า-ขาว โดยทั้งคู่ ยังไม่ได้เคยได้แชมป์ฟุตซอลโลกมาก่อน ครึ่งแรก เอแดร์ ลิมา ยิงให้ รัสเซียนำก่อน 1-0 นาทีที่ 15 ก่อนที่ อลามิโร วาโปรากี จะยิงให้ อาร์เจนตินา ตีเสมอเป็น 1-1 และนำเป็น 2-1 จากลูกโทษจากจุดที่ 2 ของ เลอันโดร คุซโซลิโน ส่วนครึ่งหลัง อาร์เจนตินา ได้เพิ่มจาก อลัน แบรนดิ นาที่ 21 และ 22 รวมทั้ง วาโอรากี นำอีกหนึ่งประตู ส่วนรัสเซีย ได้คืนมาจาก ลิมา ที่ทำสองประตูนาทีที่ 21 และลูกโทษจากจุดที่ 2 นาทีที่ 39 และ ดิมิทรี ลิสคอฟ นาทีที่ 38 แต่ไม่ทัน ทำให้ อาร์เจนตินา ชนะ รัสเซีย 5-4 คว้าแชมป์ฟุตซอลโลกสมัยแรกไปครองได้สำเร็จ ส่วน รัสเซีย คว้ารองแชมป์. -สำนักข่าวไทย