“ภูมิธรรม” ชี้สมาชิกพรรคมายืนยันการเป็นสมาชิกให้มากที่สุด

พรรคเพื่อไทย 4 เม.ย.-รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย คาดหวังให้สมาชิกพรรคมายืนยันความเป็นสมาชิกให้มากที่สุด ยืนยันการไปตีกอล์ฟที่นครปฐม 18 เม.ย.นี้ ไม่มีนัยทางการเมืองเพื่อดึงกลุ่มอดีต ส.ส.นครปฐมกลับมา


นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเปิดยืนยันความเป็นสมาชิกพรรค ว่า ตนคาดหวังให้สมาชิกพรรคเดินทางมายืนยันความเป็นสมาชิกให้มากที่สุด แต่บางคนยังติดธุระ ซึ่งขณะนี้ยังมีเวลาถึงวันที่ 30 เมษายน ส่วนการที่แกนนำพรรคเพื่อไทยจะเดินทางไปตีกอล์ฟที่จังหวัดนครปฐมในวันที่ 18 เมษายนนี้ ยืนยันว่าไม่มีนัยทางการเมืองว่าจะไปเพื่อชวนกลุ่มนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ อดีต ส.ส.กลุ่มนครปฐมที่ประกาศขอรอดูนโยบายพรรคว่าจะกลับมาเป็นสมาชิกพรรคหรือไม่

“พรรคไม่มีปัญหาเรื่องผู้นำพรรค เพราะทันทีที่ คสช.ปลดล็อคการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง สมาชิกจะประชุมเพื่อคัดเลือกหัวหน้าและคณะกรรมการบริหารพรรคได้ภายใน 30 วัน” นายภูมิธรรม กล่าว


นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงการแก้คำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 ว่า ควรจะต้องทำการยกเลิกมากกว่าการปรับแก้ไขแค่บางส่วน และหากต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองและกำหนดทิศทางของประเทศ คสช.จะต้องยกเลิกคำสั่งที่ 53/2560 คำสั่ง 57/2557  และคำสั่งที่ 3/2557 ในเรื่องการเปิดให้สามารถทำกิจกรรมและเคลื่อนไหวทางการเมืองได้

ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า หากสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ไปพรรคอื่น ไม่ต้องมาพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า สิ่งสำคัญขณะนี้ขอให้ประเทศชาติกลับสู่กระบวนการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด และเดินไปข้างหน้าได้ตามประชาธิปไตย ส่วนการจับมือระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ยังเร็วไปที่จะพูดในเรื่องดังกล่าว เพราะยังไม่ถึงเวลา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดขณะนี้ คือ นายกรัฐมนตรีควรรีบคืนประชาธิปไตยกลับมา และให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีบทบาทในการกำหนดทิศทางของประเทศและมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาของประเทศ

ส่วนที่มีพรรคการเมืองใหม่เกิดขึ้น โดยเฉพาะพรรคอนาคตใหม่ ที่เป็นคนรุ่นใหม่และรักประชาธิปไตย ซึ่งอาจเป็นคู่แข่งกับพรรคเพื่อไทยนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้ทุกพรรคแข่งกับตัวเอง ในระบอบประชาธิปไตย การมีพรรคการเมืองไม่ว่าจะเป็นพรรคใด เป็นเรื่องที่ดีทั้งหมด เพราะเป็นเวทีที่เปิดให้คนที่มีความคิดเห็นต่าง ๆ สามารถร่วมมือกันช่วยกันคิดช่วยกันทำเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่พรรคเพื่อไทยวันนี้ (4 เม.ย.) นอกจากเปิดให้แกนนำพรรคมายืนยันความเป็นสมาชิกพรรคแล้ว สมาชิกพรรคยังได้มีพิธีรดน้ำดำหัวแกนนำพรรคเนื่องในเทศกาลสงกรานต์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม