หน่วยงานขนส่งเข้มป้องกันอุบัติเหตุสงกรานต์

กรุงเทพฯ  4 เม.ย. – หน่วยงานขนส่งทางบกผนึกกำลัง One Transport  เปิดโครงการ “สงกรานต์วิถีไทย คมนาคมห่วงใย ปลอดภัยทุกการเดินทาง” ยกระดับเข้มข้นทุกมาตรการเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 พร้อมดูแลอยู่เคียงข้างเป็นเพื่อนเดินทางตลอด 24 ชั่วโมง


นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่าง กรมการขนส่งทางบก และกรมทางหลวง ภายใต้แนวคิด “สงกรานต์วิถีไทย คมนาคมห่วงใย ปลอดภัยทุกการเดินทาง” เพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัยการเดินทางของประชาชน 

นายธีระพงษ์ กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริการและอำนวยความสะดวกด้านระบบคมนาคมขนส่ง เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนทั้งเที่ยวไปและกลับ โดยเฉพาะหน่วยงานซึ่งรับผิดชอบดูแลการเดินทางบนท้องถนน กำหนดมาตรการบริหารจัดการอำนวยความสะดวกการจราจร ตรวจสอบปรับปรุงผิวจราจรและไหล่ทางให้อยู่ในสภาพดีไม่เป็นอุปสรรคที่อาจเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุ พร้อมบูรณาการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมจัดตั้งเต็นท์ One Transport บน 77 สายทางบนโครงข่ายกระทรวงคมนาคม  สำหรับเป็นศูนย์อำนวยความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางตลอดช่วงสงกรานต์ ด้านบริการขนส่งสาธารณะในส่วนของกรมการขนส่งทางบกให้บริหารจัดการรถโดยสารให้เพียงพอ จัดเตรียมรถโดยสารไม่ประจำทางมาให้บริการเสริมในเส้นทาง เพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง โดยต้องได้รับอนุญาตและแสดงหลักฐานการอนุญาตไว้ที่ด้านหน้ารถ และเป็นการวิ่งเสริมในเส้นทางเดิมที่พนักงานขับรถมีความคุ้นชินเส้นทางด้วย


ทั้งนี้ เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบความปลอดภัยในสถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่งทั่วประเทศ โดยกรมการขนส่งทางบกมีมาตรการเข้มงวดตรวจสอบความปลอดภัยของรถโดยสารประจำทางและรถโดยสารไม่ประจำทางที่นำมาวิ่งเสริมทุกคัน ควบคู่กับการตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถและผู้ประจำรถทุกคน ต้องไม่มีสารเสพติด และแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ 100%  หากตรวจพบมีสารเสพติดในร่างกายจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที  กรณีพบมีแอลกอฮอล์ต้องในลมหายใจ หากตรวจสอบพบก่อนปฏิบัติหน้าที่ให้เปลี่ยนพนักงานขับรถ และกรณีตรวจพบขณะปฏิบัติหน้าที่จะส่งดำเนินคดี ตามกฎหมายทันที พร้อมกำชับให้ผู้ขับรถโดยสาร “ใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดด้วยการ “ขับช้า” ตลอดเวลาขณะขับรถ ไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน “เปิดไฟหน้า” และควบคุมให้ผู้โดยสาร “คาดเข็มขัดนิรภัย” ตลอดการเดินทาง

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า สำหรับเทศกาลสงกรานต์ 2561 กรมการขนส่งทางบกเข้มทุกมาตรการ เพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัยแก่ประชาชนตลอดการเดินทาง ตรวจสอบความปลอดภัยตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและคนขับรถทั่วประเทศเข้มข้น เด็ดขาด จริงจัง ทันที ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดรถ รวม 212 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่ต้นทาง ระหว่างทาง จนถึงจุดปลายทาง ตามมาตรการเข้มข้น 777 ยกกำลัง 3 ของกระทรวงคมนาคม แบ่งเป็น 7 วันก่อนเทศกาล วันที่ 4-10 เมษายน 2561, 7 วัน ระหว่างเทศกาล วันที่ 11-17 เมษายน 2561 และ 7 วันหลังเทศกาล วันที่ 18-24 เมษายน 2561 หากตรวจพบรถโดยสารสาธารณะคันใดมีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง อาจเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่การขนส่งดำเนินการพ่นข้อความ “ห้ามใช้รถ” ต้องแก้ไขให้เรียบร้อยและนำรถเข้าตรวจสภาพกับกรมการขนส่งทางบกก่อนนำกลับมาให้บริการ 

ด้านพนักงานขับรถต้องมีใบอนุญาตขับรถถูกต้องตรงตามประเภท มีความพร้อมพักผ่อนเพียงพอ ลงบันทึกสมุดประจำรถ สารเสพติดและแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ หากพบชั่วโมงการทำงานเกินที่กฎหมายกำหนด ใช้สารเสพติด ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดำเนินการเด็ดขาด “สั่งห้ามปฏิบัติหน้าที่” พร้อมบังคับใช้กฎหมายลงโทษขั้นสูงสุดในทุกกรณีความผิด ทั้งเปรียบเทียบปรับ พักใช้เพิกถอนใบอนุญาตขับรถ ใบอนุญาตประกอบการขนส่ง ผู้ประกอบการต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วยทุกกรณี สำหรับมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยระหว่างทางบนถนนสายหลักและสายรอง ตั้งจุดตรวจความพร้อมรถโดยสารและคนขับ ณ จุดตรวจความพร้อม 11 จังหวัด 14 แห่ง และเพิ่มจุดตรวจ Checkpoint อีก 5 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 16 จังหวัด 19 แห่งทั่วประเทศ พร้อมจัดหน่วยเคลื่อนที่ตรวจจับความเร็วรถโดยสารสาธารณะด้วยกล้องตรวจจับความเร็วด้วยแสงเลเซอร์ และเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมพฤติกรรมพนักงานขับรถผ่านระบบ GPS Tracking แบบออนไลน์ Real-time ผ่านศูนย์ GPS ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมถึงผ่านแอพพลิเคชั่น “DLT GPS” ติดตามรถโดยสารสาธารณะ ตรวจสอบความเร็ว ชั่วโมงการทำงาน รู้พิกัด รู้จุดจอด ร้องเรียนพฤติกรรมเสี่ยงได้ตลอด 24 ชั่วโมง


ด้านนายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยถึงการดำเนินการตามมาตรการ 777 ยกกำลัง 3 ภายใต้ภารกิจของกรมทางหลวง ช่วง 7 วันก่อนเทศกาล ตรวจสอบความพร้อมของเส้นทางในการอำนวยความสะดวกและปลอดภัย 7 วันระหว่างช่วงเทศกาล วิ่งตรวจเส้นทางและตั้งจุดเฝ้าระวังตลอดเส้นทาง ประสานตั้งจุดตรวจความเร็วและตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ เตรียมรถซ่อมบำรุงเคลื่อนที่ปฏิบัติงานบนทางหลวงสายหลักที่เดินทางไปยังภูมิภาคต่าง ๆ รวมทั้งงดเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ส่วน 7 วันหลังเทศกาล ปรับระดับการเฝ้าระวัง รวบรวมและสรุปข้อมูลเพื่อประเมินผล นอกจากนี้  ได้จัดทำแผนที่แนะนำเส้นทางการเดินทางช่วงเทศกาลเพื่อมอบให้ประชาชนใช้ในการวางแผนการเดินทาง รวมถึงประสานงานกับกองบังคับการตำรวจทางหลวง ซึ่งมีจุดให้บริการตำรวจทางหลวง 200 แห่ง ตลอดจนประสานงานกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยในการเดินทาง พร้อมป้องกันและลดการสูญเสียชีวิต รวมทั้งทรัพย์สินของประชาชน 

ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกยังบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจัดนักศึกษาจากวิทยาลัยเทคนิคและวิทยาลัยการอาชีพ ตั้งจุดบริการอำนวยความสะดวกเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน บนถนนสายหลัก 189 จุดทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 11 -17 เมษายน 2561 เพื่อให้ประชาชนเข้าไปนั่งพักผ่อน คลายความเหนื่อยล้า และบริการตรวจสภาพรถเบื้องต้น รวมถึงการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่ายภาคเอกชนให้บริการตรวจเช็กสภาพรถก่อนเดินทางฟรี ณ สถานบริการที่มีป้ายประชาสัมพันธ์ “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม – 30 เมษายน 2561 ในส่วนของการเตรียมพร้อมรองรับการเดินทางของประชาชนทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ ร่วมกับ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) สมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย (สปข.) และผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะ เพิ่มจุดจอดขึ้นลงรถ ณ กรมการขนส่งทางบก จตุจักร ระหว่างวันที่ 10-12 เมษายน 2561 และวันที่ 16-19 เมษายน 2561 เพื่อลดความแออัดและบรรเทาปัญหาด้านการจราจรบริเวณโดยรอบสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) บริหารจัดการให้บริการรถแท็กซี่ รถจักรยานยนต์สาธารณะ ให้เพียงพอ ภายใต้การควบคุมการให้บริการอย่างเข้มงวด. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

จนท.อัดอากาศเข้าหลุม ใช้คนลงไปขุดหาตัวผู้ประสบภัย

กทม. 20 พ.ค.-เจ้าหน้าที่อัดอากาศเข้าไปในหลุม เตรียมความพร้อมส่งชุดค้นหา โรยตัวใช้มือขุดหาตัวผู้ประสบภัย เวลา 19.00 น. ชุดค้นหาผู้สูญหายได้นำท่ออัดอากาศเข้าไปภายในหลุมที่คนงานพลัดตกลงไป ที่ไซต์งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และซอยหลานหลวง 8 แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ซึ่งขณะนี้ทีมเจ้าหน้าที่สามารถขุดลงไปได้ลึกในระดับ 9 เมตร และเตรียมส่งชุดค้นหาลงไปใช้วิธีสำรวจโดยการขุดด้วยมือแทนการใช้เครื่องจักร เนื่องจากกังวลว่า หากขุดดินลึกลงไปในระดับที่มากกว่า 10 เมตร แรงสั่นสะเทือนเครื่องจักรจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างอาคารใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถส่งเจ้าหน้าที่ลงไปภายในหลุมดังกล่าวได้เนื่องจากภายในหลุมมีออกซิเจนเบาบาง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อชุดค้นหาได้ ทำให้ต้องอัดอากาศเข้าไปเบื้องต้นก่อน และคาดว่า ชุดเจ้าหน้าที่สามารถโรยตัวลงไปสำรวจได้ในเวลา 20.00 น. ซึ่งการลงไปในหลุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะสามารถลงไปได้เพียงครั้งละ 2 คน ใช้เวลารอบละไม่เกิน 15 นาที เวลา 20.00 น. ชุดค้นหานำอุปกรณ์ขุดเจาะ พร้อมโรยตัวลงไปในหลุม เพื่อหย่อนน้ำยาเบนโทไนต์ ซึ่งเป็นสารเคมีชนิดหนึ่ง ที่ควบคุมการไหลของน้ำ และป้องกันการพังทลายของพื้นดินช่วงที่มีการเจาะ ด้วยคุณสมบัติที่ดูดซับน้ำและเพิ่มความหนืดให้กับดินจะทำให้ดินไม่ทรุดตัว โดยชุดค้นหาให้ข้อมูลจากทีมข่าวว่า ตลอดทั้งคืนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่า ผู้สูญหายน่าจะติดค้างอยู่ในระยะความลึกประมาณ 16 […]

กว่า 24 ชั่วโมง ยังกู้ร่างคนงานพลัดตกหลุมไม่สำเร็จ

ศรีสะเกษ 20 พ.ค. – กว่า 24 ชั่วโมงแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างคนงานชาวศรีสะเกษพลัดตกหลุมฝังเสาเข็ม ตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเร่งทำงานอย่างยากลำบาก ท่ามกลางฝนโปรยปรายลงมาตลอด ดินเลื่อนไหลอ่อนตัว ส่วนญาติคนงานที่ศรีสะเกษ รอร่างกลับบ้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่เกาะติดภารกิจค้นหาร่างนายศราวุฒิ จันทะสนธ์ หรือดาว อายุ 33 ปี คนงานชาวศรีสะเกษ ที่ พลัดตกหลุมฝังเสาเข็มจากดินสไลด์ทับฝังร่างมิดความลึก 19 เมตร คาดว่าเสียชีวิตแล้ว ที่งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และซอยหลานหลวง 8 แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย โดยมีนายภุชพงศ์ สัญญโชติ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัย 3 สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ร่วมวางแผนประเมินสถานการณ์ภารกิจในการค้นหา ร่วมกับหลายหน่วยงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ขุดดินลึกลงไปได้แล้ว 9 เมตร จากการตรวจสอบดินที่นำขึ้นมา พบเพียงเศษวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างในระยะ 8 เมตร เช่น เสียม […]

ศาลฎีกาสั่งจำคุก “เสก โลโซ” 2 ปี 12 เดือน 20 วัน

กทม. 20 พ.ค.-ศาลฎีกาสั่งจำคุก “เสก โลโซ” 2 ปี 12 เดือน 20 วัน คดีต่อสู้เจ้าพนักงาน-เสพยา-ปืน ช่วงตำรวจบุกบ้านปี 60 คุมตัวเข้าเรือนจำพิเศษมีนบุรี ศาลอาญามีนบุรี ถนนสีหบุรานุกิจ อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ จำเลยคดีหมายเลขคดีดำ อ.1662/2561 แดง อ.8288/2561 ความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ เสพยาเสพติด และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ. 2490 กรณีนายเสกสรรค์ ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ที่บ้านพัก หลังจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกหมายจับในข้อหาเกี่ยวกับการยิงปืนขึ้นฟ้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร ในระหว่างการจับกุม เสก โลโซ ได้ขัดขืนและขู่จะใช้ปืน หากเจ้าหน้าที่บุกเข้ามา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องใช้หน่วยอรินทราชเข้าช่วยเหลือในการควบคุมตัว โดยอัยการโจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนพกออโตเมติกซึ่งมีทะเบียน พร้อมกระสุนปืน และต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยมีหรือใช้อาวุธปืน […]

“แพทองธาร” ลั่น สส.ย้ายพรรค อยู่ที่ความสมัครใจ เหมือนย้ายองค์กร

ทำเนียบ 20 พ.ค.-“แพทองธาร” ลั่น สส.ย้ายพรรค อยู่ที่ความสมัครใจ ห้ามไม่ได้ เปรียบเหมือนสมัครงาน-ย้ายองค์กร หาสิ่งที่ใช่ นี่เป็นวงการของเรา วงการการเมือง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านวิจารณ์ว่า นายกฯ ปล่อยให้ พรรคร่วมรัฐบาลดูด สส. เพื่อมาสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งก่อนหน้านี้ นายกฯ ระบุว่า ไม่อยากเห็นภาพการซื้อ สส. มาร่วมรัฐบาล โดยนายกฯ ย้อนถามสื่อว่า แล้วเขาซื้อหรือไม่ ขณะที่สื่อตอบกลับว่า ไม่ได้ซื้อ นายกฯ จึงกล่าวว่า เขามาด้วยความสมัครใจใช่หรือไม่ สื่อจึงตอบว่า ถ้ามาด้วยความสมัครใจได้ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรคจัดการ ซึ่งต้องไปถามหัวหน้าพรรคแต่ละพรรค ว่าจัดการแบบไหน และอยากได้ใครเข้ามาเพิ่ม “เส้นทางการเมืองที่ดิฉันพบเจอมา เป็นความเชื่อ เป็นความเข้าใจของแต่ละคน ว่าเวลานั้นรู้สึกว่าสังกัดพรรคไหนแล้วเป็นตัวเอง สังกัดพรรคไหนแล้วตอบโจทย์ เหมือนกับเราสมัครงาน ถ้าเราสมัครที่ไหนแล้วรู้สึกว่าใช่ องค์กรนี้ใช่เราหรือไม่ ก็ห้ามไม่ได้ว่าใครจะอยากย้ายไปองค์กรไหน สื่อจะอยู่สื่อเดิมหรือสื่อใหม่ก็ย้ายได้เช่นกัน เป็นสิ่งที่แล้วแต่ทุกคนจะชอบ นี่เป็นวงการของเรา […]