กทม.28 มี.ค. – ศาลพิพากษายกฟ้องเอกชนหลอกขายอัลฟ่า 6 ให้กองทัพไทย ชี้ บริษัทนำเข้าสินค้าก็อาจถูกหลอกมาอีกทอดนึง
ที่ห้องพิจารณาคดี 4 ศาลแขวงดอนเมือง ถนนแจ้งวัฒนะ ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีฉ้อโกงเครื่องตรวจหาระเบิดและสารเสพติดระยะไกล หรืออัลฟ่า 6 คดีนี้พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 1 ยื่นฟ้อง บ.แจ๊คสัน อีเลคโทรนิคส์(ประเทศไทย)จำกัด ผู้ประกอบกิจการประเภทขายส่งเครื่องจักร เป็นจำเลยฐาน ร่วมกันฉ้อโกงด้วยการหลอกลวงผู้อื่นโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดความจริงซึ่งควรบอก ซึ่งการหลอกลวงนั้นได้ทรัพย์สินไปฯ ตามมาตรา 341 ประกอบมาตรา 83 และ 91 เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2560 บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างวันเดือนใดไม่ปรากฏชัด ช่วงต้นปี 2550-14 ก.ย.2550 มีการทำสัญญาจัดซื้อเครื่องอัลฟ่า 6 จำนวน 6 เครื่อง ราคา 7.8 ล้านบาท และในปี 2552 สั่งซื้อเพิ่มอีก 2 เครื่องราคา 2.6 ล้านบาท กับทางกองบัญชาการกองทัพไทย ก่อนจะมีการพิสูจน์อุปกรณ์ดังกล่าว จนพบว่าไม่สามารถตรวจค้นหาสารเสพติดหรือวัตถุระเบิดได้จริงตามกล่าวอ้าง
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้จำเลยเป็นแค่ตัวแทนจำหน่ายที่ติดต่อกับบริษัทรับจำหน่ายจากผู้ผลิตในประเทศอังกฤษมาอีกทอด ซึ่งตอนทำสัญญากับกองบัญชาการกองทัพไทย ตัวแทนจำหน่ายได้แสดงข้อมูลรายละเอียดและสาธิตวิธีใช้ตามเอกสารที่ผู้ผลิตจัดส่งมาให้ ขณะที่การนำสืบของฝ่ายโจทก์ก็ไม่ได้นำสืบชัดเจนว่า จำเลยมีส่วนเกี่ยวข้องในการร่วมผลิตหรือร่วมจัดทำเอกสารหลอกลวงผู้เสียหาย ซึ่งแม้ว่าพยานจะเบิกความถึงนายหยาง เซียะ เซียง หนึ่งในกรรมการบริษัทว่า เป็นเพื่อนกับผู้ผลิตและเป็นผู้ร่วมคิดค้นอุปกรณ์ดังกล่าวขึ้นมา ก็เป็นเพียงข้อมูลการนำสืบ แต่โจทก์ไม่ได้นำนายหยางร่วมฟ้องด้วย ส่วนการฟ้องว่าอุปกรณ์ดังกล่าวชำรุดบกพร่อง ศาลพิเคราะห์ว่าเรื่องดังกล่าวควรไปฟ้องในคดีแพ่ง จึงพิพากษายกฟ้อง
นายคมสัน ศรีวนิชย์ ทนายความบริษัทฯ เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นไปตามคำพิพากษายกฟ้อง เบื้องต้น ตนทราบว่ามีเพียงคดีนี้คดีเดียว ส่วนคดีแพ่งยังไม่ทราบว่ามีการฟ้องร้องกันหรือไม่ พร้อมยืนยันบริษัทของจำเลยเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์มาจากผู้ผลิตมาอีกทอด ซึ่งบริษัทของจำเลยก็มีสถานะเป็นผู้เสียหายและได้ยื่นฟ้องร้องที่ประเทศอังกฤษแล้ว แต่ถูกยกฟ้องในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม หากโจทก์จะยื่นอุทธรณ์คดี ก็เป็นสิทธิ์ ซึ่งทางบริษัทพร้อมชี้แจงต่อไป.-สำนักข่าวไทย
