กก.ปฎิรูปตำรวจส่งผลสรุปให้นายกฯ

วปอ. 28 มี.ค.- คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจเตรียมส่งรายงานสรุปผลปฏิรูปต่อนายกรัฐมนตรี พรุ่งนี้ หลังใช้เวลาพิจารณากว่า 9 เดือน กำหนดให้ตั้งคณะกรรมการอิสระรับเรื่องร้องเรียนตำรวจ สรรหาจากฝ่ายพลเรือนเป็นหลัก พนักงานสอบสวนต้องมีอิสระในการทำหน้าที่รวบรวมหลักฐาน และมีหลักประกันในความเจริญก้าวหน้า เพิ่มค่าตอบแทนให้ตำรวจ และเพิ่มประสิทธิภาพมาตรฐานงานนิติวิทยาศาสตร์   


พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการฯ นัดสุดท้าย ว่า การทำงานของคณะกรรมการฯที่ผ่านมา ได้รับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายมาโดยตลอด เพื่อนำผลมาสู่สาธารณชนอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การพิจารณาแบ่งกลุ่มงาน 3 กลุ่ม คือ อำนาจหน้าที่ การสืบสวนสอบสวน และงานบริหารงานบุคคล ที่เกี่ยวข้องการแต่งตั้งโยกย้าย  ซึ่งได้ส่งผลงานไปตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องหลักคือเรื่องการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  

พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า  ในส่วนกลุ่มงานด้านภารกิจหน้าที่และอำนาจ กำหนดให้กระจายอำนาจแบบบูรณาการ ซึ่งเชื่อมโยงกับการแต่งตั้งโยกย้าย รวมถึงมีการกระจายอำนาจเรื่องของงบประมาณและการปรับโอนภารกิจให้เหมาะสม เช่น หากเป็นงานโดยตรงของหน่วยงานนั้น ๆ ก็ให้หน่วยงานนั้นๆรับผิดชอบไป แต่หากเป็นความรับผิดชอบก่ำกึ่งระหว่างตำรวจและหน่วยงานนั้นๆ ก็จะให้ตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบ 


ประธานปฏิรูปตำรวจ กล่าวว่า ยังกำหนดให้มีการตั้งคณะกรรมการอิสระรับเรื่องร้องเรียนตำรวจ โดยองค์ประกอบของคณะกรรมการฯ จะไม่ใช่ตำรวจเป็นส่วนใหญ่ จะเป็นฝ่ายพลเรือนที่ได้รับการสรรหามาอย่างเหมาะสม เพื่อรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในเรื่องที่เกี่ยวกับการกระทำของตำรวจ และคณะกรรมการฯสามารถเสนอให้หน่วยงานลงโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ๆ ได้ ย้ำว่า จะเป็นคณะกรรมการฯ ที่มีความเป็นกลาง มีวุฒิภาวะและมีอำนาจ เป็นที่พึ่งให้กับประชาชนได้

จากนั้น นายธานิศ เกศวพิทักษ์ ประธานคณะอนุกรรมการด้านการบังคับใช้กฎหมายและระบบการสอบสวนในคดีอาญา ในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) กล่าวถึงผลสรุปเรื่องงานสืบสวนสอบสวนว่า การพิจารณาที่ผ่านมายึดตามรัฐธรรมนูญเป็นหลัก และรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายประกอบการพิจารณาอย่างละเอียด  โดยเรื่องสำคัญที่สุดคือ เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนซึ่งต้องแก้ปัญหาว่าจะทำอย่างไรให้พนักงานสอบสวนมีอำนาจอิสระในการทำหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานโดยไม่อยู่ภายใต้อาณัติของบุคคลใด เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนมาตลอดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากพนักงานสอบสวน

ดังนั้น ในรายงานของคณะกรรมการฯ จึงกำหนดว่า ต้องมีหลักประกันในความเจริญก้าวหน้าในการทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวน โดยปรับปรุงระบบการเลื่อนตำแหน่งต่าง ๆ ให้อยู่ในสัดส่วนของตนเอง ไม่ต้องไปแย่งของพนักงานสอบสวนสายป้องกันและปราบปราม ซึ่งข้อดีคือ จะทำให้พนักงานสอบสวนมีความเป็นมืออาชีพ เพราะเติบโตในสายงานหลัก ไม่ย้ายงานไปมา หรือไม่มีใครมาแทรกแซงการทำงานได้ เชื่อมั่นว่า เมื่อใช้บังคับระบบใหม่แล้ว พนักงานสอบสวนน่าจะพอใจที่จะมีหลักประกันและมีความภาคภูมิใจในการทำหน้าที่ 


นายธานิศ กล่าวว่า ต้องเพิ่มประสิทธิภาพและมาตรฐานระบบงานนิติวิทยาศาสตร์ให้ทัดเทียมนานาประเทศ แต่ด้วยข้อจำกัดมากมาย จึงไม่สามารถทำได้ทันทีได้ เนื่องจากสิ่งที่ตนได้รับการร้องขอมากที่สุดคือ การเก็บวัตถุพยานและการสร้างความมั่นใจว่าพนักงานสอบสวนที่ไปตรวจสถานที่เกิดเหตุจะบิดเบือนข้อเท็จจริงโดยเจตนาหรือโดยไม่เจตนาหรือไม่ เพราะอาจทำให้วัตถุพยานที่เก็บได้เกิดความผิดพลาด นำไปสู่ความไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรม นอกจากนี้ในคดีสำคัญใหญ่ ๆ ควรมีนักนิติวิทยาศาสตร์ร่วมไปสถานที่เกิดเหตุด้วย และพนักงานสอบสวนต้องได้รับการอบรมเรื่องการเก็บวัตถุพยาน มีระบบการลงชื่อเพื่อป้องกันการสับเปลี่ยนวัตถุพยาน สำหรับประเด็นเรื่องค่าตอบแทนของตำรวจนั้น ยืนยันว่า ไม่ได้พิจารณาด้วยอารมณ์และความรู้สึก แต่นำงานวิจัยมานำเสนอเพื่อเปรียบเทียบกับตำรวจทั่วโลก 

“เราคาดหวังอะไรจากตำรวจมากมาย แต่เราให้เขาเพียงพอหรือไม่ ให้เขาเหมือนกับตำรวจสากลหรือไม่ ก่อนหน้านี้ ที่ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษา ผมไม่เคยมายุ่งเกี่ยว แต่เมื่อมาเป็นคณะกรรมการฯ จึงพบว่า ทำไมตำรวจต้องใช้เงินตัวเองเพื่อเติมน้ำมันเอง และทำไมตำรวจต้องซื้ออาวุธปืนเองในการปฏิบัติภารกิจ” นายธานิศ กล่าว

ด้านพล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ประธานคณะอนุกรรมการด้านการรับฟังความคิดเห็น ในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) กล่าวว่า ก่อนจะมีการแก้กฎหมาย คณะอนุกรรมการฯได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นทุกภูมิภาคทั่วประเทศ แล้วนำมาสรุปประมวลผลเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ เพื่อให้คณะกรรมการฯ รับทราบความต้องการการปฏิรูปตำรวจของประชาชน เตรียมนำกฎหมาย 4 ฉบับเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ทั้งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ แก้ไขเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายและค่าตอบแทน ต้องพิจารณาให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้ และพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่และภารกิจของตำรวจ 28 ฉบับ รวมทั้ง กฎหมาย ป.วิอาญา ที่ให้พนักงานสอบสวนใช้นิติวิทยาศาสตร์ในการตรวจดีเอ็นเอ คณะกรรมการฯ ได้ทำรายงานผล 700 หน้าเสนอต่อสาธารชนด้วย

นายศุภชัย ยาวะประภาษ คณะอนุกรรมการด้านวิชาการ ในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) กล่าวว่า คณะกรรมการฯมีข้อเสนอว่า ให้ยกระดับกองบังคับการสำนักงานยุทธศาสตร์ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นกองบัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ เพื่อเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ไม่เช่นนั้น หลายเรื่องที่คิดกันมาจะเดินไปข้างหน้าไม่ได้ พร้อมกันนี้ ยังเสนอให้มีการแต่งตั้งผู้รับผิดชอบเรื่องการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ หรือ CPO ขณะที่บางเรื่องสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ก็ต้องรับไปขับเคลื่อนต่อด้วยเช่นกัน 

พลเอกบุญสร้าง กล่าวว่า การสร้างชาติต้องใช้เวลา การวาดตำรวจใหม่จากแผ่นกระดาษเปล่าง่ายกว่าการวาดรูปบนกระดาษที่ไม่ใช่กระดาษเปล่า ดังนั้น จึงต้องใช้เวลาเพื่อจัดระบบให้เอื้ออำนายให้มากที่สุด 

“กว่าจะทำกันมาก็ 9 เดือน เพื่อส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา แล้วคณะรัฐมนตรีจะส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกา ก่อนส่งกลับมายังคณะรัฐมนตรี แล้วส่งไปยัง สนช. ดังนั้น ก็คงจะอีกหลายเดือนก่อนกฎหมายจะออก และเมื่อกฎหมายออกไปแล้ว ก็จะต้องมีอนุบัญญัติ กฎระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าหน่วยงานต่าง ๆ จะนำไปสู่การปฏิบัติ อาจจะหลายเดือน เป็นปี หรือปีกว่า ๆ หลังจากเข้าสู่ระบบการปฏิบัติแล้ว จะปฏิบัติได้ดีแค่ไหน ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพขององค์กรนั้น ๆ และก็ขึ้นอยู่กับลักษณะนิสัยของบุคลาการที่พร้อมจะปรับเปลี่ยนหรือไม่ ถึงแม้จะใช้เวลาหน่อยแต่จะดีขึ้นทุกปี เรามีความหวังและเราจะรู้สึกดีขึ้น เหมือนเรือที่วิ่งใกล้เข้าสู่จุดหมายทุกที จะเร็วจะช้าขึ้นอยู่กับหลายอย่าง รวมทั้งสื่อมวลชนและประชาชนที่จะเอื้อข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิรูปตำรวจ ประชาชนก็ต้องพยายามทำตามกฎหมาย เป็นตำรวจอยู่ในตัวเองด้วย จะไกลแค่ไหนอยู่ที่เราจะก้าวเร็วหรือก้าวช้า” พล.อ.บุญสร้าง กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพล.อ.บุญสร้างได้ลงนามในผลรายงานสรุปการปฏิรูปตำรวจเสนอให้นายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (29 มี.ค.) แล้ว.- สำนักข่าวไทย     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

วันเกิดอนุทิน

แกนนำรัฐบาลร่วมเบิร์ธเดย์ 59 ปี “อนุทิน” ชื่นมื่น

พรรคภูมิใจไทย 13 ก.ย.- แกนนำรัฐบาล ร่วมเบิร์ธเดย์ 59 ปี “อนุทิน” ชื่นมื่น สส.อวยพร หลังเลือกตั้งขอให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีก 4 ปี พรรคภูมิใจไทยจัดงานวันเกิดครบรอบ 59 ปี ให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โดยมีพรรคร่วมรัฐบาล อาทิ พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม, นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ บุตรชายนายสันติ, พิพัฒน์ รัชกิจประการ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมถึงบุคคลในครอบครัว เช่น ธนนนท์ นิรามิษ ภริยา, เศรณี และนัยน์ภัค ชาญวีรกูล บุตรชายและบุตรสาวของนายอนุทิน, ไตรศุลี ไตรสรณกุล อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ร่วมร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์และเป่าเค้ก […]

Nepal President and Interim Prime Minister

เนปาลยุบสภา หลังได้นายกฯ เฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรก

กาฐมาณฑุ 13 ก.ย.- ทำเนียบประธานาธิบดีเนปาลออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวันศุกร์ว่า ประธานาธิบดีได้ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร และกำหนดให้จัดการเลือกตั้งในวันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2569 หลังจากที่ได้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ ประธานาธิบดีรามจันทระ เปาเฑลของเนปาลสั่งยุบสภาและให้จัดการเลือกตั้งใหม่ดังกล่าว โดยก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมงเพิ่งแต่งตั้งนางสุชีลา การ์กี วัย 73 ปี อดีตประธานศาลฎีกา เป็นนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ หลังจากที่ได้เจรจาหารือกันอย่างเข้มข้นเป็นเวลา 2 วัน กับผู้บัญชาการทหารบกและแกนนำผู้ประท้วงกลุ่มเจเนอเรชันซีหรือเจนซี (Gen Z) เพื่อเดินหน้าประเทศที่เกิดการลุกฮือครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายปี มีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 51 คน ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 1,300 คน มีการเผาอาคารรัฐสภา ที่ทำการรัฐบาล และบ้านพักนักการเมือง ทำให้นายกรัฐมนตรีเค.พี. ชาร์มา โอลี ต้องลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 กันยายน ด้านนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียที่มีพรมแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือติดกับเนปาล โพสต์เอ็กซ์ (X) แสดงความยินดีอย่างจริงใจต่อนางการ์กีที่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลเฉพาะกาลเนปาล และว่าอินเดียมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมต่อสันติภาพ ความก้าวหน้า และความรุ่งเรืองของพี่น้องชาวเนปาล การประท้วงในเนปาลปะทุขึ้นในกรุงกาฐมาณฑุแล้วลุกลามไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็วเมื่อวันที่ 8 กันยายน ชนวนเหตุเกิดจากการที่รัฐบาลสั่งห้ามการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งไปโหมกระพือกระแสความไม่พอใจเรื่องความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมในประเทศที่ตกอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบกษัตริย์เป็นสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยในปี 2551 […]

“อนุทิน” เข้าพรรคฯ นำคุย ว่าที่ รมต. หารือกรอบนโยบาย

พรรคภูมิใจไทย 13 ก.ย.-“อนุทิน” เข้าพรรคภูมิใจไทย วันเกิด นำคุย ว่าที่ รมต. หารือกรอบนโยบาย ก่อนแถลงต่อสภาฯ ขณะที่ภาคเอกชน-นักการเมือง-ข้าราชการ ส่งดอกไม้อวยพรวันเกิด ครบ 59 ปี บรรยากาศที่พรรคภูมิใจไทย เวลา 14.15 น. นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ส่งแจกันดอกไม้สีฟ้า-ขาว มาร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิด ครบ 59 ปี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ขณะที่ตั้งแต่ช่วงบ่ายยังมีบรรดานักการเมือง ข้าราชการ และภาคเอกชน ส่งดอกไม้อวยพรวันเกิดและแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก อาทิ นายวราวุธ ศิลปอาชา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในสมัยรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร พลเอกเทพพงษ์ ทิพยจันทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม นายกร ทัพพะรังสี อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย นอกจากนี้ยังมีแจกันดอกไม้ที่ส่งมาอวยพรนายอนุทิน ทั้งส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฯ […]

ธปท.เรียกถกผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย หารือ 15 ก.ย.นี้

กทม. 13 ก.ย.-ธปท. เรียกถกผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย หารือจันทร์นี้ หลัง กกร.ตั้งข้อสังเกตส่งออกทองคำไปกัมพูชาพุ่งสูงผิดปกติ กรณีนายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชนสามสถาบัน (กกร.) ได้ทำการตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าแรงผิดปกติ สวนทางเศรษฐกิจปัจจุบัน จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบความผิดปกติของการส่งออกทองคำไปกัมพูชา มีตัวเลขสูงผิดปกติ ซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่านั้น ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เรียกด่วนผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย เพื่อหารือถึงประเด็นดังกล่าวในวันที่ 15 ก.ย.นี้ ด้านวงในให้จับตา “ทองคำ” ช่องโหว่เศรษฐกิจ เหตุเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีหน่วยงานกำกับดูแล จนกระทรวงการคลัง-แบงก์ชาติ ต้องถกหาวิธีดูแลธุรกรรมทองคำเพื่อปิดช่องฟอกเงิน เผย 7 เดือนไทยส่งออกทองไปกัมพูชาแล้วกว่า 71,800 ล้านบาท ทั้งนี้ การส่งออกทองคำของไทยที่อยู่ในหมวดอัญมณีและเครื่องประดับ ระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2568 ตามตัวเลขของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (GIT) พบว่าไทยมีการส่งออกไปยังกัมพูชาอยู่ในอันดับ 3 รองจากการส่งออกไปยังสวิตเซอร์แลนด์ และอินเดีย ซึ่งเป็นแหล่งค้าทองคำที่สำคัญของโลก โดยตัวเลขการส่งออกไปยังกัมพูชา 7 เดือนแรกของปี 2568 […]